"ช้างศึกยุทธหัตถี" เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดของไทย ตั้งแต่ฤดูกาล 2013 พร้อมสร้างความฮือฮาด้วยการจบอันดับ 4 ของตาราง โดยฤดูกาล 2017 ที่ผ่านมาจบอันดับ 11 อย่างไรก็ตามปีนี้สุพรรณบุรี เอฟซี ปรับโฉมทีมใหม่ และเตรียมทีมดีกว่าเดิม ไล่ตั้งแต่ชุดแข่งขัน, แนวคิดของทีม ตลอดจนตัวผู้เล่น โดยตั้งเป้าว่าจะกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่แบบที่เคยทำได้อีกครั้ง
"สโลแกนในปีนี้เราใช้ "One Team One Spirit" เราใช้ความรวมใจเป็นหนึ่งเดียว" บิ๊กท็อป-วราวุธ ศิลปอาชา กล่าวเริ่มภายในงาน
"ที่ผ่านมาเรามีผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์มา แต่ความเป็นทีมเรากลับไม่ค่อยดี ปีนี้เราขอไม่เอาซูเปอร์สตาร์แล้ว แต่ใช้ความเป็นทีมเวิร์คมากขึ้น
และปีนี้เราไม่ได้ทำทีมบี (Team B) แล้ว เราลองทำแล้วไม่ได้ประสบความสำเร็จอย่างที่เราคิดไว้ เราก็เลยโฟกัสทีมใหญ่ทีมเดียว ทำให้มีการปล่อยตัวนักเตะไปพอสมควร"
"บรรยากาศในทีมปีนี้ของเราก็ดีขึ้น ก่อนหน้านี้ไม่นาน ผมเพิ่งมาทราบว่านาสซ่า (นฤพน พุฒซ้อน) กับซิลวาโน่ กอมฟาลิอุส กองหน้าตัวใหม่ รู้จักกันมาก่อนตั้งแต่เด็ก ส่วนตัวไทยก็มีความคุ้นเคยกันอยู่แล้ว อย่าง (อันแดร์สัน) ดอสซานโตส เขาก็คุ้นเคยกับอดุล (หละโสะ) และตี๋ (สินทวีชัย หทัยรัตนกุล) มา สิ่งสำคัญ คือ ผู้เล่นต่างชาติปีนี้พูดภาษาอังกฤษได้หมดเลย เราเน้นผู้เล่นต่างชาติที่เคยมีประสบการณ์ในไทยมา อย่างตัวทากาฟูมิ อากะโฮชิ นักเตะญี่ปุ่น เขาก็คุ้นกับผู้เล่นไทยดี"
"ในปีใหม่นี้ผมยังมั่นใจอเดบาโย กาเดโบ้ เฮดโค้ชชาวไนจีเรียนของเราอยู่ เขาอยู่กับเรานานมาก และเข้าใจถึงหลังการของสโมสรเป็นอย่างดี เขาเป็นคนที่มีจิตวิทยาสูง มีลูกเล่นที่คอยคุยกับนักเตะในทีมได้ และเขาพูดได้ทั้งไทย และอังกฤษคล่องมาก สิ่งสำคัญ คือ ปีนี้เราไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากมาย เชื่อว่าทีมจะมีความลงตัวกว่าปีที่ผ่านๆ มา"
นอกจากเรื่องทีมเรื่องชุดแข่งขันยังเป็นไฮไลท์สำคัญ สุพรรณบุรี เอฟซี มักออกแบบชุดแข่งโดยแฝงความหมายที่ลึกซึ้ง แต่ปีนี้จากความร่วมมือกับวอริกซ์ (Warrix) ได้ผลิตชุดแข่งสุดพิเศษ พร้อมด้วยความหมาย และลวดลายที่สวยงามลึกซึ้งกว่าเดิม
"ปีนี้เราทำออกมา 3 สี สีกรมท่าเป็นสีเหย้า สีที่สองเป็นสีแดง และเสื้อแข่งที่สามเป็นสีขาว" นายวราวุธ กล่าวต่อถึงชุดแข่งขันทั้งสามชุดในฤดูกาล 2018
"ถ้าถามถึงความหมายของสี คือสีของธงชาติ แดง ขาว น้ำเงิน และโทนสีก็จะใช้สีเดียวกับที่ใช้ในธงชาติ โดยเสื้อเหย้าจะเป็นเสื้อคอวี ตรงหน้าอกจะเป็นลายมังกรสวรรค์ หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองสุพรรณบุรี ตัวเนื้อผ้าจะเป็นผ้าที่เบาที่สุดตั้งแต่สโมสรเคยผลิตมากับวอริกซ์ (Warrix)"
"ด้านหลังจะเป็นผ้าตาข่ายชั้นดีที่จะระบายอากาศได้อย่างดี ในขณะที่เสื้อสีแดง จะเป็นเสื้อที่มีปก วัสดุที่ทำปกจะเป็นแบบทอสีกรม โดยที่ด้านขวามือจะมีแถบธงชาติอยู่ ด้านหลังของปกจะมีการทอคำว่า "สุพรรณบุรี" ลงไป และมีสัญลักษณ์หอคอยทางแถบซ้ายของเสื้อ"
"เสื้อตัวที่สามคล้ายกับเสื้อเหย้า แต่เป็นสีขาว จะมีลายมังกรสวรรค์เหมือนกัน โดยทั้งเสื้อเหย้าและเยือนนำมารวมกันจะเป็นลายมังกรคาดอกและลายหอคอย นำมาบวกกัน จะเป็นลายขวางกับลายไขว้ที่เป็นลูกศรแห่งชัยชนะของสุพรรณบุรี ที่เรามีอยู่ทุกปี เสื้อทั้ง 3 ตัวทางวอริกซ์ ดูแลเอาใจใส่ทางการผลิตในการเลือกวัสดุที่ดีที่สุดมาผลิตตั้งแต่ผลิตให้เรามา"
ด้านนายสุรพล อุทินทุ ผู้อำนวยสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)กล่าวถึงการเป็นผู้สนับสนุนหลักของ "ช้างศึกยุทธหัตถี" สุพรรณบุรี เอฟซี เป็นปีที่ 8 ติดต่อกันว่า สโมสรแห่งนี้ แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพในทุกด้าน และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น และจริงใจในการสร้างสโมสรฟุตบอลอาชีพ
"ช้าง พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาวงการลูกหนังไทย ไม่ว่าการสนับสนุนฟุตบอลภายในประเทศแบบทั้งระบบ เริ่มตั้งแต่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จนถึงการพัฒนาเยาวชน และผู้ฝึกสอน เช่นเดียวกับสโมสรฟุตบอลอาชีพกว่า 30 สโมสร ที่ทางช้างได้ให้การสนับสนุน
สำหรับสุพรรณบุรี เอฟซี ก็เป็นหนึ่งในสโมสรที่ช้างให้การสนับสนุนมาตั้งแต่ดิวิชั่น 1 จนสามารถเลื่อนชั้นขึ้นมาแข่งขันในไทยลีกได้สำเร็จจนถึงปัจจุบัน กว่า 8 ปีที่ผ่านมาเราได้เห็นถึงการพัฒนาทีมอย่างเป็นระบบ และที่สำคัญคือเห็นถึงความตั้งใจ จากทีมผู้บริหารสโมสร รวมถึงนักฟุตบอล เจ้าหน้าที่ทีม ที่ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจเพื่อทีมสุพรรณบุรี เอฟซี
ในปีนี้ "ช้าง"ยังคงอยู่เคียงข้างและให้การสนับสนุนทีมสุพรรณบุรี เอฟซี อย่างเต็มที่ และขอเป็นกำลังใจให้ทีมสุพรรณบุรี เอฟซี ทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ พร้อมสร้างสีสันและความสุขคืนสู่แฟนบอลชาวสุพรรณและแฟนๆทั่วประเทศต่อไป" นายสุรพล กล่าว