บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้น บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SPPT ภายหลังเข้ารับฟังข้อมูลธุรกิจจากผู้บริหาร เมื่อเร็วๆนี้ ว่า SPPT มีโอกาสขายธุรกิจโรงงานผลิต HDD ที่ขาดทุนออกไป เพื่อหาช่องทางการลงทุนธุรกิจด้านไอทีเพิ่มเติมอีก จากที่เข้าซื้อธุรกิจรับเหมาระบบฯไปแล้วก่อนหน้า ทั้งนี้ ประเมินว่าผลการดำเนินงานของ SPPT จะเทิร์นอะราวด์ ตั้งแต่ Q4/60
ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ประธานกรรมการ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SPPT เปิดเผยว่า ในปี 2561 จะเป็นปีแห่งการเทิร์นอะราวด์ของบริษัทฯ โดยจะสามารถสร้างผลกำไรได้สูงสุดในรอบหลายปี
"ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ เข้าซื้อหุ้น บริษัท เทอร์ราไบท์ เน็ท โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (TERA) เพื่อขยายไลน์ธุรกิจจากการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ มาสู่ธุรกิจวางระบบและให้บริการด้านไอที ซึ่งจะเริ่มสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯในปีนี้ ขณะที่แนวโน้มก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน TERA มีรายได้เฉลี่ยปีละประมาณ 400 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี มีคู่ค้าภาคเอกชนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ในหลายอุตสาหกรรม ซึ่งได้รับความไว้วางใจให้บริษัทฯเป็นผู้วางระบบ" ดร.ปกรณ์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการยังดำเนินขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยได้จัดตั้งบริษัทย่อย 2 บริษัท คือ 1. บริษัท เอสพีพี อินเทลลิเจนซ์ ดำเนินธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อให้บริการแพลทฟอร์มด้านโลจิสติกส์ รวมทั้งเป็นตัวกลางในการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ ให้กับผู้ประกอบการด้านขนส่ง และ 2.บริษัท เอสพีพี ฟินเทค จำกัด ดำเนินธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อให้บริการ แพลทฟอร์ม ด้าน FinTech สำหรับให้บริการทางการเงินครบวงจร รองรับความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิตอลที่มีจำนวนมากกว่า 50-60 ล้านคน ซึ่งตลาดนี้มีกำลังซื้อเป็นจำนวนมหาศาล
"มั่นใจว่าการขยายไลน์ธุรกิจเข้าสู่การเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ แพลทฟอร์ม ด้านโลจิสติกส์ และด้านฟินเทค ให้บริการด้านการเงินอย่างครบวงจร ในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมั่นคง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะขยายฐานรายได้ของบริษัทฯ แข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาการเข้าซื้อหรือร่วมทุนในกิจการที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับธุรกิจไอที ซึ่งคาดว่าในช่วง Q1/61 จะมีความชัดเจน 1-2 ดีล " ดร.ปกรณ์กล่าวในที่สุด