รายงานข่าวจาก 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย หรือ TSMC กล่าวว่า การลอยตัวราคาน้ำตาลทรายตามการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของภาครัฐในครั้งนี้ ส่งผลดีต่อระยะยาวต่ออุตสาหกรรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทย เนื่องจากการกำหนดราคาขายภายในประเทศจะสะท้อนกลไกตลาด จากเดิมมีการเก็บเงินกิโลกรัมละ 5 บาทส่งเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ไปอุดหนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อย ซึ่งการปรับเปลี่ยนดังกล่าวเป็นการปฏิบัติตามพันธสัญญาในฐานะที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกหรือ WTO และแก้ข้อพิพาทจากการฟ้องร้องของบราซิลที่กล่าวหาว่าภาครัฐให้การอุดหนุนการผลิตและส่งออกด้วย
การลอยตัวราคาน้ำตาลทรายในประเทศ จำเป็นต้องยกเลิกการใช้มาตรา 17(18) แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ที่กำหนดให้คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายต้องกำหนดราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงาน จึงจำเป็นต้องยกเลิกการปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว โดยหัวหน้า คสช. ได้มีคำสั่ง ตามมาตรา 44
ทั้งนี้ การลอยตัวราคาน้ำตาลทราย และยกเลิกโควตา ก. ข. ค. เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมและน้ำตาลทรายพยายามร่วมกันผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเป็นสาระสำคัญที่ต้องดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ. อ้อยและน้ำตาลทรายที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไข โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทยให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเชื่อการปรับเปลี่ยนระบบจะส่งผลให้อุตสาหกรรมนี้ยั่งยืนในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม การลอยตัวราคาน้ำตาลจะทำให้ชาวไร่และโรงงานน้ำตาลได้รับผลกระทบจากราคาขายในประเทศที่ปรับตัวลดลง ตามสถานการณ์ราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นประโยชนต่อผู้บริโภค ถึงแม้ว่ารายได้ของระบบของอุตสาหกรรมโดยรวมจะได้รับผลกระทบไปบ้าง แต่ในระยะยาวแล้ว หากราคาในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น โรงงานและชาวไร่อ้อยก็จะได้รับผลประโยชน์เพิ่มขึ้นเช่นกัน เช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยสุดท้ายแล้ว การยกเลิกการคุมราคาขายจะทำให้เกิดการแข่งขันที่ดีทั้งการพัฒนาผลผลิตอ้อยของชาวไร่ คุณภาพน้ำตาลทราย และการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้แก่อุตสาหกรรมฯ และทุกฝ่ายจะได้รับผลประโยชน์ที่มีความพึงพอใจสูงสุดร่วมกัน
ส่วนกรณีที่ยกเลิกการจัดเก็บเงิน 5 บาทเข้าสู่กองทุนฯ หลังลอยตัวราคาน้ำตาลแล้ว คาดว่าราคาขายปลีกลดลงประมาณ 2 บาทนั้น ถือเป็นต้นทุนการผลิตและการจำหน่าย ที่สะท้อนความเป็นจริงตามภาวะต้นทุนในปัจจุบัน หลังจากที่ผ่านมาโรงงานน้ำตาลทรายต้องแบกรับภาระต้นทุนที่ไม่สามารถปรับราคาได้มานานกว่า 10 ปี และราคาดังกล่าวถือเป็นราคาที่เหมาะสม และเป็นราคาน้ำตาลทรายของปลีกของไทยต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านและเกือบจะมีราคาถูกที่สุดของโลกอยู่แล้ว เกรงว่าหากมีราคาขายต่ำกว่านี้อาจส่งผลให้มีการลักลอบนำน้ำตาลทรายภายในประเทศไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลต่อความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาภาวะน้ำตาลทรายภายในประเทศขาดแคลนได้