โออิชิ ย้ำความสำเร็จปี 2560 กำไรเติบโต ครองส่วนแบ่งตลาดชาพร้อมดื่มอันดับหนึ่งทิ้งห่างคู่แข่ง ปักหมุดปี 2561 เดินหน้ารักษาตำแหน่งผู้นำทั้งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นอย่างแข็งแกร่ง โดยสร้างสรรค์นวัตกรรมเครื่องดื่มพร้อมปรับภาพลักษณ์แบรนด์อาหารให้โดนใจ มุ่งสร้างการเติบโตแบบยั่งยืน
นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "ในปี 2560 สภาพเศรษฐกิจไทยขยายตัวไม่สูงนัก แต่โออิชิกรุ๊ปสามารถรักษาฐานยอดขายได้ และสร้างผลกำไรได้อย่างดี กล่าวคือ ยอดขายในปี 2560 (1 ต.ค. 2559 – 30 ก.ย. 2560) มีรายได้จากการขายรวมทั้งสิ้น 13,551 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 0.6% จากปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจอาหาร 6,497 ล้านบาท เติบโตทรงตัวจากปีที่ผ่านมา (-0.8%) ส่วนธุรกิจเครื่องดื่มมีรายได้ 7,054 ล้านบาท เติบโตทรงตัวจากปีที่ผ่านมาเช่นกัน (-0.4%) ขณะที่กำไรสุทธิรวมเติบโตขึ้นทั้งสองธุรกิจ บริษัทได้ผลกำไรสุทธิรวม 1,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.5% จากปีก่อน แบ่งเป็นผลกำไรสุทธิจากธุรกิจอาหาร 210 ล้านบาท เติบโต 76.5% ธุรกิจเครื่องดื่มกำไรสุทธิ 1,233 ล้านบาท เติบโต 22.8%"
"สำหรับความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ในส่วนธุรกิจอาหาร หลังจากปรับภาพลักษณ์สินค้าและบริการแบรนด์ร้านอาหารในเครือ รวมทั้งตอกย้ำในด้านคุณภาพจนร้านอาหารในเครือทุกสาขาผ่านการรับรองระบบประกันคุณภาพ มาตรฐาน GMP – HACCP – ISO 9001:2015 จากบริษัทเอสจีเอส (ประเทศไทย) องค์กรชั้นนำของโลกทางด้านการตรวจสอบและการรับรองระบบ ส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความชื่นชอบในแบรนด์ ภาพรวมธุรกิจอาหารจึงมีผลกำไรเติบโตขึ้น ส่วนอาหารแช่แข็งและ Packaged Food โดยภาพรวมตลาดเติบโตเป็นอย่างมาก บริษัทจึงเตรียมแผนรองรับการขยายตัวของตลาด โดยใช้ศักยภาพทางการผลิตที่แข็งแกร่ง สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุงและพร้อมทานให้โดดเด่น ทั้งรูปแบบ รสชาติ และบรรจุภัณฑ์ ตอบโจทย์ชีวิตสำเร็จรูปที่หลากหลายของผู้บริโภค ขณะที่ธุรกิจเครื่องดื่ม โออิชิกรีนทีสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดชาพร้อมดื่มได้ในประเทศไทยในปีที่ผ่านมาด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง 46% (ข้อมูลจาก: Nielsen เดือน ม.ค.- ก.ย.60) อีกทั้งประสบความสำเร็จในการขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ลาวและกัมพูชา"
"สำหรับเป้าหมายในปีงบประมาณ 2561 นี้ บริษัทมุ่งเน้นรักษาความเป็นผู้นำทั้งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่ง โดยมีแผนกลยุทธ์หลักสี่ข้อ ดังนี้ (1) Customer Centric (การทำการตลาดแบบเข้าใจผู้บริโภคอย่างถ่องแท้) มุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่ผู้บริโภคต้องการ (2) Innovation (นวัตกรรม) สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริการ และกิจกรรมการตลาดที่โดดเด่น แปลกใหม่ แตกต่าง และสร้างคุณค่าแก่ผู้บริโภค (3) Digital Transformation (การใช้ดิจิตอลขับเคลื่อนธุรกิจ) โดยใช้เครื่องมือดิจิตอลต่างๆ เข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจ และเข้าถึงผู้บริโภคได้หลากหลายยิ่งขึ้น (4) Continue to Build & Support Brand (สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง) พัฒนาแบรนด์ให้ทรงพลัง และติดตรึงใจผู้บริโภค" นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กล่าวเสริม
นอกจากนั้น บริษัทยังได้รับรางวัลจากองค์กรชั้นนำต่างๆ อาทิ รางวัล Superbrands Thailand Award สามปีซ้อนในฐานะแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มที่เป็นรู้จักและครองใจผู้บริโภค, รางวัล Thailand's Most Admired Brand สามปีซ้อนจากการเป็นแบรนด์ที่ครองความน่าเชื่อถืออันดับหนึ่งในหมวดชาพร้อมดื่ม เป็นต้น อีกทั้งมุ่งเน้นดำเนินธุรกิจภายใต้การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability) และรับผิดชอบต่อสังคม โดยเริ่มต้นตั้งแต่ในบ้าน กล่าวคือทุกกระบวนการการผลิตของโออิชิเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งการประหยัดพลังงาน กระบวนการบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมที่ดีแก่ชุมชน ตลอดจนการดูแลสังคมผ่านโครงการ "ให้" เป็นการสนับสนุนและช่วยเหลือสังคมด้านต่างๆ และโครงการ "อิ่มจัง" โดยแบ่งปันอาหารและเครื่องดื่มโออิชิให้แก่ผู้ด้อยโอกาส สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะสะท้อนและเชื่อมโยงกลับมาสู่โออิชิในฐานะบริษัทอาหารและเครื่องดื่มที่มีธรรมาภิบาลและคืนกำไรให้กับสังคม