ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการเริ่มต้นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีกด้วย โดยโครงการได้รับการออกแบบและดำเนินการก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานระดับสากล อีกทั้งยังเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่จะมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีกำลังการผลิตติดตั้ง 220 เมกกะวัตต์ พื้นที่รวมของโครงการมีขนาด 836 เอเคอร์ หรือเท่ากับ 2,115 ไร่ ซึ่งได้รับสิทธิเช่าพื้นที่จากรัฐบาลและบริษัทในประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และเมื่อมีการดำเนินการจ่ายไฟแล้วจะขายให้กับหน่วยงานจัดหาพลังงานภายใต้กระทรวงไฟฟ้าและพลังงาน (Electric Power Generation Enterprise "EPGE") ของรัฐบาลสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ มีกำลังการผลิตที่สามารถตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 350,000,000 kWh/ปี เทียบเท่าการใช้ไฟฟ้า 2 แสนครัวเรือน ความสำเร็จของโครงการจะทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้า ซึ่งโครงการจะกลายเป็นแบบอย่างและความภาคภูมิใจของประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์อีกด้วย
นายออง ทีฮา ประธานกรรมการ บริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบูให้ประสบความสำเร็จ และมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างมาตรฐานชีวิตที่ดีให้กับชาวพม่า โดยจะส่งมอบโรงไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานสูงสุดระดับโลก อุปกรณ์ที่ใช้ในโครงการได้รับการคัดสรรและออกแบบอย่างดีที่สุดและใช้เทคโนโลยีขั้นสูงสุดเท่านั้น และวันนี้นับเป็นวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ Phase 1 ของโครงการที่สร้างขึ้นบนเนื้อที่ 160 เอเคอร์ มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 50 MWDC หรือ 40 MWAC สำหรับ Phase 1 นี้เราจะติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์จำนวน 160,000 แผง ซึ่งแผงทั้งหมดได้ถูกจัดส่งและเก็บไว้ในโครงการแล้ว นอกจากนี้ Phase 1 ยังถือเป็นส่วนที่มีความสำคัญอย่างมากของโครงการ โดยจะมีการก่อสร้างสถานีจ่ายไฟย่อยขนาด 220 MVA เพื่อใช้ส่งไฟฟ้าเข้ากริดไฟฟ้าของประเทศฯ (National grid) โดยทางโครงการได้วางแผนล่วงหน้าและดำเนินการก่อสร้างสายส่งเข้า/ ออก ขนาด 230kV (Transmission Line) เสร็จสิ้นพร้อมทั้งได้เชื่อมต่อกับกริดไฟฟ้าของประเทศฯ และส่งมอบให้ EPGE เป็นที่เรียบร้อยแล้วอีกด้วย
ทั้งนี้บริษัทได้รับสัมปทานเพื่อพัฒนาและดำเนินงานแบบ BOT (Built-Operate-Transfer) มีระยะเวลาสัญญา 30 ปี ด้วยอัตราค่าไฟฟ้าที่ได้รับสนับสนุนจากภาครัฐ 0.1275 USD ต่อ kWh ซึ่งแบ่งการดำเนินการก่อสร้างออกเป็นทั้งหมด 4 ระยะ โดย 3 ระยะ แรกจะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 50 MW และ 70 MW สำหรับระยะสุดท้าย