“นักลงทุนส่วนใหญ่เฝ้าติดตามเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศและผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน โดยดัชนีฯ เดือนกุมภาพันธ์ 2561 อยู่ในภาวะร้อนแรงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน”

พุธ ๐๗ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๘ ๑๗:๑๓
ดร. สันติ กีระนันทน์ ผู้แทนสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2561 "ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ในภาวะร้อนแรงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยปัจจัยหนุนหลักมาจากความเชื่อมั่นในเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศจากภาวะเศรษฐกิจในภูมิภาคและในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังเฝ้าจับตาการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ ที่มีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และค่าเงินในภูมิภาคแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องรวมทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 31 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งอาจกระทบต่อผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มธุรกิจส่งออก เป็นปัจจัยกดดันความเชื่อมั่น สำหรับตลาดหุ้นไทยเดือนมกราคม ดัชนีฯมีการปรับตัวในทิศทางที่เพิ่มขึ้นโดยดัชนีฯได้มีการปรับเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์" โดยมีรายละเอียด ดังนี้

- ดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้า (เมษายน 2561) อยู่ที่ 156.62 อยู่ในเกณฑ์ "ร้อนแรง" (Bullish) (ช่วงค่าดัชนีระหว่าง 120 - 160) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.74% จากเดือนที่ผ่านมาที่ 153.94

- ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยกลุ่มบัญชีนักลงทุนต่างประเทศและกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ยังคงอยู่ที่ระดับร้อนแรงอย่างมาก ขณะที่กลุ่มสถาบันภายในประเทศและกลุ่มนักลงทุนรายบุคคลปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยยังคงอยู่ที่ระดับร้อนแรงเช่นเดียวกับเดือนก่อนหน้า

- หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดธนาคาร (BANK)

ส่วนหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (ETRON) เป็นหมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด

- ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ การเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ

ขณะที่ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ การเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ

"ภาวะการลงทุนในเดือนมกราคม ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นทำลายสถิติดัชนีปิดทำการสูงสุดในประวัติศาสตร์ โดยราคาปิดสูงสุดที่ระดับ 1838.96 จุดในวันที่ 24มกราคม 2561 โดยนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศที่เป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดทุน จากตัวเลขเงินทุนไหลเข้าที่ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นและความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกและเศรษฐกิจในประเทศที่มีการคาดการณ์การขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยIMF ปรับเพิ่มประมาณการ GDP โลกปี 2018-2019 เป็นขยายตัว 3.9% ทำให้ความเชื่อมั่นนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในระดับร้อนแรง อย่างไรก็ตามการเคลื่อนย้ายเงินทุนดังกล่าว นักลงทุนมองว่าเป็นปัจจัยฉุดการลงทุนเช่นกันจากผลกระทบต่อค่าเงินบาทและค่าเงินในภูมิภาคที่อาจกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นในสหรัฐและยุโรป ทำให้คาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐยังคงมีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้จำนวน 3-4 ครั้งตามทิศทางดังกล่าว"

ดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Expectation Index) เดือนกุมภาพันธ์ 2561

"ผลจากดัชนีคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะทรงตัวที่ระดับ 1.50% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี และ 10 ปี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ปัจจัยหลักมาจาก การขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเศรษฐกิจไทย และอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงต่ำกว่ากรอบนโยบาย"

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Expectation Index) เดือนกุมภาพันธ์ 2561โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม กนง. รอบเดือนกุมภาพันธ์นี้ อยู่ที่ระดับ 52 สะท้อนความเชื่อมั่นของตลาดว่า กนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ1.50% ในการประชุมครั้งหน้า โดยให้น้ำหนักในปัจจัยหลัก 3ประการ ได้แก่ 1)การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่สูงนัก 2) อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ และ 3) อัตราดอกเบี้ยของตลาดการเงินโลก

ดัชนีคาดการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 5 ปี และ 10 ปี ในช่วงประชุม กนง. รอบเดือนกุมภาพันธ์ 2561 (ประมาณ 11 สัปดาห์ข้างหน้า) อยู่ที่ระดับ 78 และ 87 ตามลำดับ ซึ่งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 5ปีปรับลดลงจากครั้งที่แล้ว (ระดับ 83) ในขณะที่ดัชนีคาดการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี ปรับขึ้นจากครั้งที่แล้ว (ระดับ83) ดัชนีทั้งสองอยู่ในระดับที่สะท้อนถึงทิศทางที่เพิ่มขึ้นทั้งคู่ แต่ตลาดมีความมั่นใจที่มากขึ้นว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี จะปรับสูงขึ้น โดยผู้ตอบแบบสำรวจให้ความสำคัญใน 4 ปัจจัยหลัก คือ 1) อุปสงค์ อุปทานในตลาดตราสารหนี้ไทย 2) Fund Flow 3) การคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ และ 4) อัตราเงินเฟ้อและแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ เม.ย. OR จับมือภาครัฐและผู้ประกอบการชุมชน เพิ่มประสิทธิภาพการตลาดผลิตภัณฑ์ OTOP ผ่านโครงการ 'ไทยเด็ด' มุ่งเสริมแกร่งเศรษฐกิจชุมชนไทยอย่างยั่งยืน
๐๔ เม.ย. เทลสกอร์ จับมือพันธมิตร ขับเคลื่อนโครงการ 'Help You, Help Me' สู่ปีที่ 6 ผสานพลังคอนเทนต์ครีเอเตอร์ สนับสนุนโครงการเพื่อสังคม
๐๔ เม.ย. เซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว สนับสนุนภารกิจกู้ภัย มอบอาหารและเครื่องดื่มให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์
๐๔ เม.ย. ร้อนๆแบบนี้ มาหมุนให้ฉ่ำ!!สนุกสุดมันส์ไปกับเครื่องเล่น Water Roller ลูกบอลน้ำมหาสนุก
๐๔ เม.ย. ซัมเมอร์นี้ชวนเช็กอินสมุย แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของชาวเวลเนส ที่ BDMS Wellness Clinic สาขา Celes Samui
๐๔ เม.ย. โซเชียลจับตา ตึกถล่ม-อาฟเตอร์ช็อก ประเด็นร้อนหลังแผ่นดินไหว
๐๔ เม.ย. กรมทรัพยากรน้ำ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่เหียะน้อย พร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เชียงใหม่
๐๔ เม.ย. GoWabi แพลตฟอร์มจองบริการบิวตี้ครบวงจรอันดับ 1 ในไทยเปิดตัวบริการ GoWabi POS พร้อมประกาศรางวัล GoWabi Top Rated
๐๔ เม.ย. ทีทีบี เชิญชวนเที่ยว พิพิธภัณฑ์ครุฑ สืบสานพลังศรัทธา สรงน้ำ สมเด็จมหาราชทรงครุฑ เสริมพลังบุญรับปีใหม่ไทย
๐๔ เม.ย. บัตรเครดิต ทีทีบี มอบโปรฯ ฟรีอัปเกรด! HUT บุฟเฟต์ อิ่มไม่อั้น จ่ายเพียง 399 บาท