นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่กรมฯได้เข้าไปส่งเสริมการเรียนรู้ด้านสหกรณ์ให้กับสามเณรของโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดไผ่ดำแล้ว ปัจจุบันได้เพิ่มโครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ขึ้นภายในโรงเรียน โดยปรับปรุงพื้นที่ภายในวัด 11 ไร่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้และฝึกประสบการณ์ด้านการเกษตรให้กับสามเณร โดยแบ่งพื้นที่จัดกิจกรรมสำหรับการเรียนรู้ 2 โครงการ คือ โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน และโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช โดยมีเป้าหมายให้สามเณรนักเรียนใช้ระบบของสหกรณ์ในการทำงานร่วมกันเพื่อผลิตวัตถุดิบด้านการเกษตรส่งไปยังโรงครัวของโรงเรียน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายอาหารเลี้ยงสามเณร ซึ่งหากใช้แนวทางตามพระราชดำริจะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ไม่น้อยกว่า 1ใน 3 ของงบประมาณ ซึ่งแต่ละเดือนค่าใช้จ่ายในการจัดซื้ออาหารสูงถึง 50,000 บาท
"ศูนย์การเรียนรู้ที่จัดตั้งขึ้นนี้ จะทำให้สามเณรได้เรียนรู้เกี่ยวกับการรวมกลุ่มเพื่อการผลิตด้านการเกษตรด้วยตนเอง เพื่อว่าในอนาคตสามเณรเหล่านี้ เมื่อได้ลาสิกขาไป จะได้มีความรู้อาชีพการเกษตรเพื่อใช้ประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ พื้นที่รกร้าง 11 ไร่ของโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดไผ่ดำถูกพัฒนาให้กลายเป็นศูนย์การเรียนรู้โดยแบ่งเป็น 5 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 พื้นที่การเรียนรู้ด้านการเกษตร แปลงปลูกผักกางมุ้ง เพื่อปลูกผักปลอดภัยและผักทั่ว ๆ ไป ผักเหล่านี้จะได้รับการดูแลจากนักเรียนหรือสามเณร ผลผลิตที่ได้ส่วนหนึ่งจะถูกส่งเข้าโรงครัวของวัดเพื่อนำไปปรุงเป็นอาหารเพื่อเลี้ยงสามเณร เพื่อเป็นการลดต้นทุนของโรงเรียน โซนที่ 2 จะเป็นโซนต้นไม้หายากและสมุนไพร เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และการอนุรักษ์พันธุ์ไม้หายาก โซนที่3 ต้นไม้ในพุทธศาสนา โซนที่ 4 ไม้ป่าเบญจพรรณต่างๆ เป็นไม้ใหญ่ โดยสร้างเป็นสวนป่า และโซนที่ 5 เป็นสระน้ำ สร้างเป็นวังปลา นำพันธุ์ปลาหายาก มาปล่อยและเลี้ยงไว้ในสระแห่งนี้ เพื่อให้ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ทั้งเรื่องพันธุ์พืช พันธุ์ปลา และในอนาคตก็จะเปิดให้นักเรียนและเยาวชนที่อยู่ในละแวกนี้ก็เข้ามาศึกษาเรียนรู้ในที่นี้ได้ด้วย" นายพิเชษฐ์ กล่าว
กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เปิดตัวโครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้โรงเรียนพระปริยัติธรรมที่วัดไผ่ดำ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา และได้รับความร่วมมือจากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดและขบวนการสหกรณ์จากจังหวัดต่าง ๆ สนับสนุนพันธุ์ไม้หายาก พันธุ์ปลา อุปกรณ์ในการปลูกต้นไม้และงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ ซึ่งทุกฝ่ายได้ร่วมใจกันสนับสนุนการดำเนินโครงการ เพื่อเป็นการสนองพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พันธุกรรมพืช รวมถึงการพัฒนาพันธุ์พืชเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป ในอนาคต ซึ่งจะต้องเริ่มจากการสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนและคนในชุมชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช และการนำพันธุกรรมพืชไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การส่งเสริมกิจกรรมสหกรณ์นักเรียนในโรงเรียนภายใต้ถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผลที่ได้ปัจจุบัน นักเรียนที่ผ่านการเรียนและฝึกทักษะในวิชาสหกรณ์จะมีความรู้ความสามารถในเรื่องการทำเกษตร ปลูกพืช มีวิธีบริหารจัดการผลผลิต การแปรรูป การทำบัญชี สามารถนำหลักการของสหกรณ์ไปใช้ในชีวิตประจำวันและนำความรู้ที่ได้ติดตัวไปใช้เมื่อเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และคาดหวังว่าในอนาคตเยาวชนเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยพัฒนาขบวนการสหกรณ์ต่อไป