นางสาวพัชรพร สิริทรัพย์วงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ ไป่ตู้ ประเทศไทย กล่าวว่า "ธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทยยังคงมีแรงหนุนจากสถานการณ์ต่างๆ ชาวจีนยังคงให้ความสนใจในการเดินทางมาท่องเที่ยว พักผ่อน และจับจ่ายใช้สอยในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง สถานที่ท่องเที่ยวเดิมยังคงไม่มีปัญหาความซบเซา อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยแต่ละช่วงเวลาอาจจะมีการเลือกสถานที่ท่องเที่ยวต่างกันออกไป ซึ่งปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวจีนท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทั้งในและต่างประเทศราว 349,000,000 คน โดยจำนวน 59% ของจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยไป่ตู้คาดว่า ปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงตรุษจีนสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากปีนี้สภาพอากาศในประเทศไทยมีอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ประสบกับสภาพอากาศที่แปรปรวนเช่นบางปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ภาครัฐบาลยังจัดงานต่างๆ กระตุ้นการท่องเที่ยวอีกด้วย"
"สำหรับในช่วงตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ระหว่างวันที่ 15-21 กุมภาพันธ์ จะเป็นช่วงฤดูหนาว ที่ประเทศจีนมีอุณหภูมิลดต่ำลงมาก ทำให้นักท่องเที่ยวจีนนิยมและเลือกที่จะเดินทางไปในสถานที่ที่อบอุ่น มีอากาศสดชื่น ปลอดโปร่ง และได้พักผ่อนกับครอบครัวในช่วงเวลาเฉลิมฉลอง ซึ่งประเทศที่ได้รับความนิยมจากคนจีนกลุ่มนี้ได้แก่ ไทย , ฮ่องกง และเกาหลี เรียงตามลำดับ ตามข้อมูลเชิงสถิติจากปี 2017 โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมสูงสุดได้แก่ ทะเล และเกาะ โดย 3 อันดับ เกาะ ที่นักท่องเที่ยวจีนเลือกเดินทางไปท่องเที่ยวมากที่สุด คือ เกาะภูเก็ต , เกาะบาหลี และเกาะเจจู"
"เกาะภูเก็ตเป็นสถานท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวของต่างชาติ รวมทั้งชาวจีนโดยตลอด เนื่องจาก เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ติดอันดับด้านความสวยงามของโลก ชาวต่างชาตินิยมเข้ามาท่องเที่ยวชมความงามและพักผ่อน โดยมีนักท่องเที่ยวมากมาย มีความสวยงาม มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย การเดินทางสะดวก สามารถเดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นได้ง่าย มีของฝาก และของใช้ที่เหมาะสมต่อการซื้อเป็นของฝาก และสามารถสร้างความประทับใจต่อผู้มาเยือนได้ในทุกฤดูกาล" พัชรพรกล่าวเสริม
พัชรพรกล่าวสรุปว่า "สำหรับผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต นอกจากความได้เปรียบทางด้านการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับโลก และการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ได้รับจากทางภาครัฐบาลแล้ว ในภาคผู้ประการธุรกิจรายย่อยต่างๆควรจะมองเห็นโอกาสนี้และพัฒนาศักยภาพให้ทัดเทียมกับโอกาสที่เข้ามา เพื่อทำให้เกิดความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน รวมไปถึงการสร้างโอกาสทางธุรกิจในการสื่อสารเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในสถานการณ์ที่เป็นประโยชน์ โดยการใช้สื่อออนไลน์ที่มีปริทธิภาพและสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพราะเข้าถึงง่าย สามารถแบ่งปันและต่อยอดข่าวสารและเรื่องราวระหว่างบุคคลได้อย่างรวดเร็ว โดยไป่ตู้ แอคเซส ก้าวขึ้นมาพัฒนาและต่อยอดเรื่องราวต่างๆเหล่านี้ เพื่อประโยชน์และลดอุปสรรคในการเข้าถึงนักท่องท่องเที่ยวชาวจีนของผุ้ประกอบการธุรกิจชาวไทย"