นายธีร์ธวัช แร่จั่น ประธานบริหารบริษัท เดอร์มาลิงค์ จำกัด เปิดเผยว่า เดอร์มาลิงค์ คือผู้อยู่เบื้องหลังความงามในยุคสมัยนี้ เป็นพันธมิตรกับโรงพยาบาลและคลินิกความงามกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ มีผลิตภัณฑ์แบ่งเป็น 3 เซ็กเมนต์ ได้แก่ 1. กลุ่มเวชภัณฑ์ 60% 2. กลุ่มเครื่องมือแพทย์ 30% และ 3. กลุ่มสกินแคร์ 10% ภาพรวมตลาดในประเทศของเดอร์มาลิงค์ปี 60 ปิดยอดที่ 480 ล้านบาท โตขึ้นจากปีก่อน 20% โดยตลาดนวัตกรรมในประเทศมีมูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 15-20 % ต่อปี และมีแนวโน้มโตขึ้นอีก วัดจากยอดการเปิดตัวของคลินิกความงามที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมกว่า 8,000 แห่งทั่วประเทศ บริษัทฯ จึงยังคงสรรหานวัตกรรมใหม่ๆ จากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมจากประเทศเกาหลี สเปน สหรัฐอเมริกา และเยอรมัน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ สำหรับในปีนี้เราตั้งเป้าเติบโตอีก 20% ขยับขึ้นเป็น 600 ล้านบาท รวมถึงจะเปิดตัวสกินแคร์ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวหน้าแบบเร่งด่วนเจาะตลาดลูกค้าทั่วไป มั่นใจคุณภาพพร้อมแข่งตลาดนี้ได้ไม่ยาก
"เดอร์มาลิงค์เตรียมรุกตลาดแมสโปรดักส์ครั้งแรก จากนวัตกรรมระดับโลก เมโสเอสเทติก แอนไทเอจจิ้ง แฟลช (mesoestetic Antiaging Flash) ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อหน้าใสแบบเร่งด่วน เพียงทาข้ามคืนตื่นมาก็สวยใส รองรับทั้งลูกค้าคลินิกเสริมความงาม และกลุ่มลูกค้าผู้ใช้ทั่วไป พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการประมาณเดือนพฤษภาคมนี้ ด้วยคุณภาพของแบรนด์เดอร์มาลิงค์ จึงมั่นใจว่าจะสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดนี้ได้ไม่ยาก ถึงแม้คู่แข่งในประเทศจะค่อนข้างเยอะ รวมถึงยังมีการหิ้วและนำเข้าสินค้าแบบเดียวกันนี้ ในลักษณะที่ผิดกฎหมายและราคาถูก แต่รับรองผลลัพธ์ที่ได้ต่างกันแน่นอน สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายเบื้องต้นจัดจำหน่ายทางออนไลน์เป็นหลัก และกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับบิวตี้สโตร์และโมเดิร์นเทรดต่างๆ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ รีจูวีเน็กซ์ ครีม (Rejuvenex) ช่วยทำให้แผลเบาหวานหรือแผลกดทับหายเร็วขึ้น โดยการกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดและเซลล์ผิวใหม่ ที่ตอนนี้เราได้สนับสนุนการทำวิจัยและทดลองร่วมกับทางโรงพยาบาลชั้นนำ ซึ่งในอนาคตคาดว่าเป็นตัวยาทางเลือกที่ทางโรงพยาบาลต่างๆ จะจ่ายให้กับผู้ป่วยเหล่านี้" นายธีร์ธวัช กล่าว
ในปีนี้เดอร์มาลิงค์ยังคงมีกิจกรรมออกบูธแนะนำนวัตกรรม พร้อมร่วมจัดสัมมนาเวิร์กช็อปให้ความรู้แก่คุณหมอ โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงมีแผนการรุกตลาดประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศกัมพูชา พม่า ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เพราะมีเทรนด์ความงามที่ใกล้เคียงกัน วางสัดส่วนยอดขายประมาณ 10% จากยอดขายทั้งหมด โดยเน้นเจาะตลาดจากคลินิกและผ่านพาร์ทเนอร์ในแต่ละประเทศแบบขายขาด โดยให้พาร์ทเนอร์เป็นผู้กระจายสินค้า ซึ่งในอนาคตวางแผนเปิดบริษัทที่ประเทศกัมพูชา เพื่อทำตลาดเอง เนื่องจากมีแนวโน้มที่เติบโตสูงมากและมีฐานลูกค้าเดิมที่ค่อนข้างแน่นอยู่แล้ว นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเตรียมเปิดตัวสินค้าอีกหลายรายการภายในปีนี้