ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ว่าชาวบ้านหมู่ 3 ต.จำปาหล่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง ร้องเรียนเกี่ยวกับกลิ่นจากการประกอบอุตสาหกรรมของโรงงานไทยเรยอนนั้น
รายงานดังกล่าว มีความคลาดเคลื่อนและขัดแย้งกับข้อเท็จจริง เนื่องจากโรงงานได้ทำการปรับปรุงการควบคุมกลิ่นจากกระบวนการผลิตมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลิ่นที่ออกจากโรงงานมีความถี่น้อยลงและเจือจางอย่างมาก ผลการตรวจวัดมลสารในอากาศก็ไม่เกินค่ามาตรฐานที่หน่วยงานภาครัฐกำหนดแต่อย่างใด
ปัญหาข้อร้องเรียนของชาวบ้านนั้น ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยคณะกรรมการเบญจภาคีจังหวัดอ่างทอง ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เช่น อุตสาหกรรมจังหวัดอ่างทอง ผู้แทนจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม หน่วยงานด้านความมั่นคง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สื่อมวลชน ชมรมคนรักษ์อ่างทอง รวมถึงผู้แทนจาก บริษัท ไทยเรยอน จำกัด (มหาชน)
โดย คณะกรรมการเบญจภาคี ได้มีมติให้โรงงานไทยเรยอนดำเนินการปรับปรุงแก้ไขด้านสิ่งแวดล้อมรวม 17 มาตรการ รวมถึงการติดตั้งระบบกู้คืนก๊าซคาร์บอนไดซัลไฟต์ (CS2 recovery system) ซึ่งในทางปฏิบัติ บริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงไปแล้ว 83 มาตรการ จนกระทั่งถึงวันที่ 18 มกราคม 2561 บริษัทฯ ใช้งบประมาณไปแล้วไม่ต่ำกว่า 525 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดจ้างที่ปรึกษาพิเศษจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ให้เข้ามาตรวจสอบ ประเมินผลการควบคุมระดับกลิ่น ตลอดจนให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินงาน
บริษัทขอยืนยันว่าการประกอบกิจการของโรงงานไทยเรยอน ได้ยึดตามมาตรฐานที่กำหนดใน พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 อย่างเคร่งครัด และมีความมั่นใจอย่างยิ่งว่าการดำเนินงานของโรงงานไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในชุมชนใกล้เคียง การประท้วงของชาวบ้านกลุ่มดังกล่าว จึงเป็นการแสดงออกของคนกลุ่มหนึ่ง และมิได้สะท้อนถึงความคิดเห็นของชาวบ้านทั้งตำบลแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี บริษัทไม่เคยเพิกเฉยต่อข้อร้องเรียนของชาวบ้าน และมีความตั้งใจจริงที่จะพัฒนาปรับปรุงเรื่องการควบคุมกลิ่นให้ดียิ่งขึ้นเพื่อให้อุตสาหกรรมและชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน ความปลอดภัยและผลประโยชน์ของชาวบ้านในชุมชน ยังคงเป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญสูงสุดเสมอมา