นายหวัง วนาไพรสณฑ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ็พพลาย ดีบี จำกัด (มหาชน) หรือ ADB ผู้นำผลิตภัณฑ์กาวและยาแนวและผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนผลักดันผลการดำเนินงานปี 2561 เติบโตอย่างต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีหลังของปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 5-10%จากปีก่อน หลังจากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ประเภทเม็ดพลาสติกพีวีซีในตลาดโลกกลับมาขยายตัวได้ดีตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว จึงทำให้บริษัทฯ ต้องเดินเครื่องจักรเต็มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างปรับเครื่องจักรกลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์เพิ่มเติม 1 สายการผลิต เพื่อเสริมกำลังการผลิตเพิ่ม โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตสินค้าได้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้
ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์กาวและยาแนวได้วางแผนขยายตลาดต่างประเทศผ่านผู้แทนจำหน่ายสินค้า เช่น ภูมิภาคอาเซียน, ทวีปแอฟริกา ซึ่งมีความต้องการใช้สินค้าในงานก่อสร้างและปรับปรุงซ่อมแซม ขณะเดียวกันได้เดินหน้าก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ (โรงงานที่ 4) ในจังหวัดสมุทรปราการเพื่อต่อยอดการผลิตสินค้ากลุ่มกาวยาแนว ได้แก่ 1.ซิลิโคนยาแนว และ 2.โมดิฟายซิลิโคนพอลิเมอร์สำหรับยาแนว และเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าเดิม ได้แก่ 1.อะคริลิกยาแนว และ 2.กาวแทนตะปู ปัจจุบันการก่อสร้างโรงงานมีความคืบหน้าประมาณ 80% เมื่อแล้วเสร็จจะทยอยติดตั้งและทดสอบเครื่องจักร คาดว่าจะเริ่มการผลิตสินค้าในไตรมาส 4/61 และจะเริ่มจำหน่ายสินค้าเพื่อรับรู้รายได้ตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป ซึ่งจะสามารถดำเนินการผลิตและจำหน่ายเต็มกำลังการผลิตได้ในปี 2563
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีนโยบายเพิ่มศักยภาพการขยายธุรกิจและการบริหารจัดการภายในองค์กร จึงได้จัดตั้งฝ่ายพัฒนาธุรกิจขึ้นเพื่อประสานการทำงานกับฝ่ายต่างๆ ในองค์กร เช่น ฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฝ่ายผลิต รวมถึงประสานงานกับคู่ค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมองโอกาสการขยายธุรกิจหรือพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่จะสร้างการเติบโตที่ดีในอนาคต
"เชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีที่ผลการดำเนินงานของ ADB เติบโตได้ดีทั้งยอดขายและความสามารถการทำกำไร หลังจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์มีคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น และบริษัทฯ ได้วางแผนรับมือผลกระทบจากราคาวัตถุดิบที่อาจผันผวนตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยกรณีที่รอส่งมอบสินค้านานเกินกว่า3 เดือน บริษัทฯ จะเจรจาขอทบทวนราคาสินค้าตามต้นทุนวัตถุดิบที่แท้จริง" นายหวัง กล่าว
นางสาวพรพิวรรณ นิรมลเฉิดฉาย ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการเงินและบัญชี ADB กล่าวว่า บริษัทฯ มีนโยบายบริหารต้นทุนและรับมือราคาวัตถุดิบที่อาจผันผวน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเพิ่มขีดความสามารถการทำกำไรขั้นต้น โดยมีเป้าหมายผลักดันอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้ให้อยู่ในระดับเดียวกับปี 2558-2559 ที่เคยทำได้ประมาณ 18-20% หลังจากเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/60 ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวม 355.17 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 9.44 ล้านบาท ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากควบคุมต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคาดหวังจะเห็นการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้
"เราได้ประเมินความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกที่จะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน ทั้งราคาวัตถุดิบและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดยมีการทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าเพื่อลดผลกระทบ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัจจุบันเรามีการนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศเพื่อติดตั้งในโรงงานใหม่ ซึ่งบริษัทฯ จะได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเช่นกัน" นางสาวพรพิวรรณ กล่าว