นางศรัณยา กระแสเศียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท เอเชีย ไบโอแมส จำกัด (มหาชน) หรือ ABM เปิดเผยว่า บมจ. เอเชีย ไบโอแมส ได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น (อันเดอร์ไรท์เตอร์) พร้อมด้วยผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายอีก 2 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 75 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ "ABM"
โดยเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนลงทุนที่จะใช้ในการขยายพื้นที่เก็บรวบรวมกะลาปาล์มในประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซียเพิ่มเติม และลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิตชีวมวลอัดแท่งกับบริษัทร่วมทุนพื้นที่บริเวณภาคใต้ รวมถึงลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิตไม้สับ และโรงงานผลิตชีวมวลอัดแท่งใน จังหวัดสุราษฎร์ธานี สำหรับส่วนที่เหลือคาดว่าจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
"ABM มีทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์สูงสำหรับการเป็นผู้จัดหาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวมวล ให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศนั้น อีกทั้งทีมผู้บริหารยังเล็งเห็นถึงความสำคัญถึงการขยายและพัฒนาบริษัทฯ เพื่อรองรับการขยายตัวจากความต้องการใช้เชื้อเพลิงชีวมวลที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคตทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้หุ้น ABM มีความน่าสนใจและคาดว่าจะได้การตอบรับที่ดีจากนักลงทุน" นางศรัณยา กล่าว
นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ ABM กล่าวว่า การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)ของ ABM จำนวน 75 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.80 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 29.51 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิจากผลประกอบการของบริษัทในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง (ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2559 ถึงไตรมาส 3 ปี 2560 ) ซึ่งมีกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.06 บาท โดยมีP/E (อัตราส่วนระหว่างราคาหุ้นปัจจุบันเทียบกับกำไรต่อหุ้น) ประมาณ 29.51 เท่า ซึ่งอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นดังกล่าวคำนวณจากผลประกอบการในอดีต โดยที่ยังมิได้พิจารณาถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ทั้งนี้ คาดว่าจะเสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของผู้จัดจำหน่ายคิดเป็นสัดส่วน 86% และเสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ 14% ราคาหุ้นไอพีโอ หุ้นละ 1.80 บาท หุ้นไอพีโอของ ABM โดยจะเปิดให้นักลงทุนทั่วไปจองซื้อได้ระหว่างวันที่ 19 – 21 กุมภาพันธ์ 2561 โดยผ่านตัวแทนหลักทรัพย์ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่าย 3 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด และคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561
"คาดว่าหุ้น ABM จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดี เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการนำเสนอข้อมูลหลักทรัพย์ หรือ โรดโชว์ ในอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก ประกอบกับวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงประสบการณ์และทีมผู้บริหารที่มีความสามารถในสร้างโอกาสความพร้อมในการลงทุนต่อเนื่อง เพื่อรองรับ ความต้องการใช้เชื้อเพลิงโลกตามนโยบายสนับสนับสนุนการเพิ่มสัดสวนการใช้เชื้อเพลิงชีวมวล จึงมั่นใจว่าหุ้นของบริษัทฯจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนและสร้างผลตอบแทนที่ดีในการลงทุน" นางสาวพัชพรกล่าว
นางสาวธิญาดา ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย ไบโอแมส จำกัด (มหาชน) หรือ ABM ผู้ประกอบธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวมวล เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้เดินสายโรดโชว์ เพื่อแนะนำบริษัทฯ ให้เป็นที่รู้จักทั้งกับนักวิเคราะห์และนักลงทุน ซึ่งมีกระแสการตอบรับที่ดี และนักลงทุนให้ความสนใจในบริษัทฯ เพิ่มมากขึ้นนั้น บริษัทฯ เชื่อว่าทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ในแง่ของความต้องการใช้เชื้อเพลิงชีวมวลที่เพิ่มขึ้น ล้วนส่งผลให้บริษัทฯ มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีและการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนึ่งในการทำให้บริษัทฯ ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
"สำหรับการระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทฯ มีศักยภาพทางธุรกิจที่สูงขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งใน และต่างประเทศได้เป็นอย่างดี ซึ่งบริษัทฯ หวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนจาการเข้าเป็นส่วนหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ โดยบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจ และสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต เพื่อให้บริษัทฯ เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น และมีความน่าเชื่อถือทั้งต่อลูกค้าและนักลงทุน" นางสาวธิญาดา กล่าว