อธิการบดี ม.ขอนแก่น กล่าวอีกว่า หลักสูตรก้าวหน้าเป็นทิศทางที่มหาวิทยาลัยทุกแห่งต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญที่ระบุถึงการพัฒนาการผลิตบัณฑิตสาขานิติศาสตร์ ซึ่งโครงการต่อยอดการศึกษาแบบก้าวหน้าของนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ประจำปี 2561 เป็นข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างคณะนิติศาสตร์และวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น
"กล่าวได้ว่าหลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรแรกในประเทศไทยที่มีการพัฒนาต่อเนื่อง โดยจุดเริ่มต้นเกิดจากแนวคิดที่ว่าสาขาวิชานิติศาสตร์สามารถทำงาน หรือ ต่อยอดไปหลายคณะได้ โดยเฉพาะหลักสูตรด้านรัฐศาสตร์ เมื่อบัณฑิตสำเร็จการศึกษาออกไปแล้ว สามารถทำงานหรือบูรณาการองค์ความรู้ได้อย่างไร้รอยต่อ เนื่องจากมีสาขาที่ใกล้เคียงกัน คณบดีวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่นและคณบดีนิติศาสตร์จึงได้มาหารือร่วมกับทางมหาวิทยาลัย ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการเป็นคณะนำร่อง 2 คณะแรก ในการมีบัณฑิตต่อยอดในคณะอื่นๆ โดยไม่เพิ่มค่าใช้จ่าย มีเพียงเวลาเรียนที่เพิ่มขึ้น เพื่อที่จะทำให้นักศึกษาหรือบัณฑิตมีความเข้มแข็งในการเรียน องค์ความรู้สหสาขา สร้างแต้มต่อในตลาดงานต่อไปในอนาคต" รองศาสตราจารย์ ดร.กิตติชัย กล่าว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์กิตติบดี ใยพูล คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยว่า การจัดทำสัญญาและบันทึกข้อตกลงเพื่อพัฒนาศักยภาพบัณฑิตภายใต้โครงการต่อยอดการศึกษาแบบก้าวหน้าของนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ประจำปี 2561 เป็นการสร้างโอกาสและมูลค่าเพิ่มแก่นักศึกษากฎหมายและบัณฑิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในการเตรียมความพร้อมบุคลากรทางกฎหมาย เพื่อรองรับการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายและงานยุติธรรม และยังเป็นการสร้างนวัตกรรมการศึกษาของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษากฎหมายชั้นปีที่ 4 สามารถต่อยอดการศึกษาระดับปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์ วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น
"โครงการนี้เป็นโครงการนำร่องเพื่อพัฒนาการจัดหลักสูตรการเรียนการสอนตามนโยบายของมหาวิทยาลัยขอนแก่น และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการประจำคณะในคราวประชุมเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา โดยการดำเนินโครงการครั้งนี้มีนักศึกษาที่ผ่านการคัดเลือกเข้าโครงการฯจำนวน 44คน ซึ่งคณะได้พิจารณาสนับสนุนทุนการศึกษาเต็มจำนวนให้นักศึกษาบัณฑิตกฎหมายได้มีโอกาสต่อยอดองค์ความรู้ในระดับปริญญาโท หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต ในการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถของบัณฑิตกฎหมาย ให้มีทักษะวิชาการ ทักษะด้านการวิจัยที่กว้างขวาง รวมไปถึงการพัฒนารองรับพลวัตทางสังคม"ผู้ช่วยศาสตราจารย์กิตติบดี กล่าว
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวมีเงื่อนไขการรับทุน ในการผลิตผลงานวิชาการและงานวิจัย และการนำผลงานไปใช้ประโยชน์ ซึ่งการพิจารณาให้ทุนเป็นไปตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ของคณะ นอกจากนี้การพิจารณาจัดสรรงบประมาณได้มาจากแผนงานผู้สำเร็จการศึกษาคณะนิติศาสตร์ และแผนงานผลงานวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ โดยใช้งบประมาณผูกพันปีงบประมาณ 2561-2563