“วินเทอร์เทสต์” ผ่านฉลุย “สนามช้างฯ” พร้อมรับศึกโมโตจีพี ครั้งแรกในประเทศไทย

การทดสอบอย่างเป็นทางการของสุดยอดศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รายการ โมโตจีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2018 ในช่วงวินเทอร์เทสต์ มีขึ้นเมื่อวันที่ 16-18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยนับเป็นการลงเทสต์สนามแห่งนี้ครั้งแรกของนักบิดโมโตจีพีทั้ง 24 คน จาก 12 เพื่อเก็บข้อมูลในการพัฒนารถแข่งในปี 2018 ก่อนที่จะเปิดฤดดูกาลในวันที่ 16-18 มีนาคมนี้ ที่ประเทศกาตาร์

สำหรับ โมโตจีพี ไทยแลนด์ วินเทอร์เทสต์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับต้อนรับฤดูกาลใหม่ของบรรดาทีมแข่งในศึก โมโตจีพี แล้ว ยังเปรียบเหมือนการได้เตรียมความพร้อมของฝ่ายจัดการแข่งขันในประเทศไทย โดยเฉพาะ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ว่าจะต้องปรับปรุงส่วนไหนบ้างสำหรับการแข่งขัน พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018 จะเกิดขึ้นจริงระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคมนี้

ขณะเดียวกัน ยังนับเป็นการโหมโรงให้กับแฟนๆ ชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์ของ โมโตจีพี นับตั้งแต่การเทสต์ และเพื่อให้ชาวไทยเตรียมความพร้อมสำหรับต้อนรับแฟนมอเตอร์สปอร์ตจากทั่วโลกที่คาดว่าในสุดสัปดาห์ดังกล่าวจะมีผู้คนหลั่งใหลในสนามแข่งขัน และจ.บุรีรัมย์ รวมถึงทุกๆ จังหวัดทั่วประเทศมากกว่า 300,000 คน

นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวถึงภาพรวมตลอดทั้ง 3 วันที่ผ่านมาว่าได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างดี "เราเพิ่งได้มีการประชุมกับฝ่ายจัดการแข่งขันทั้งสหพันธ์จักรยานยนต์ระหว่างประเทศ (FIM) และดอร์นาสปอร์ต ทุกฝ่ายมีความแฮปปี้เพราะไม่คิดว่าสนามที่เมืองไทยจะมีแทร็กที่สมบูรณ์ขนาดนี้ รวมถึงจุดพิตและความปลอดภัยต่างๆ"

"เช่นเดียวกับกระแสตอบรับจากนักแข่งที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศซึ่งชื่นชมและชื่นชอบสนามแห่งนี้ด้วย ทำให้เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เราไม่ต้องกังวลแล้ว แต่สิ่งที่ยังห่วงอยู่ก็คือเมื่อถึงวันแข่งขันจริงจะรับมือกับจำนวนผู้ชมที่เดินทางมาตลอด 3 วันอย่างไร โดยเฉพาะปัญหาสภาพการจราจร เพราะต้องยอมรับว่าทุกประเทศเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เจอปัญหาเรื่องนี้ ดังนั้นเราจะต้องบริหารจัดการให้ออกมาดีที่สุด"

นายตนัยศิริ เผยต่อว่าเตรียมปรับปรุงทางเข้าพิตบริเวณโค้ง 11 ให้เหมาะสมมากขึ้นตามที่มีนักแข่งหลายรายเรียกร้องเข้ามา "ทางนักแข่งมีการแนะนำมาว่าทางสนามควรจะปรับเรื่องทางเข้าพิตหลังโค้ง 11 ให้ขยับเข้ามาอีกเล็กน้อยเพื่อความสะดวกตอนแข่งขัน เพราะตามปกติโค้ง 9-10-11 จะเป็นโค้งรูปตัวเอส เมื่อออกจากโค้งตัวเอสไปแล้วรถจะชิดขอบและต้องตรงไปอีกเล็กน้อยจึงจะเข้าพิตอินได้ เราจึงปรับทางเข้าพิตให้เลื่อนเข้ามาเพื่อที่จะให้ออกจากโค้ง 11 แล้วสามารถเข้าพิตได้เลย"

ทั้งนี้ หลังจากผ่านการทดสอบทั้งสิ้น 3 วัน ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ปรากฏว่า แดนี เปโดรซ่า นักบิดร่างเล็กชาวสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า ที่ทำเวลาได้เร็วที่สุดหลังจากปรับเซ็ตรถแข่งได้ลงตัวที่สุด ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 29.781 วินาที สร้างสถิติเวลาต่อรอบใหม่ให้กับสนามแห่งนี้ในประเภทการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบ พร้อมกันนี้ อันเดรีย โดวิซิโอโซ นักบิดอิตาเลียน จาก ดูคาติ ทีม ยังควบรถแข่ง ดูคาติ เดสโมเซดิซี จีพี18 ทำสถิติ ความเร็วสูงสุดถึง 334.4 กิโลเมตร/ชั่วโมง

"หลังผ่านการทดสอบ 3 วัน สิ่งที่พิสูจน์ความพร้อมและคุณภาพของ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และความพร้อมในตัวเมืองบุรีรัมย์ รวมถึงความพร้อมของคนไทยแล้ว ถือว่าได้รับการตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากทั้ง ดอร์น่า สปอร์ต, บรรดาทีมแข่งต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดานักบิดทุกคันที่แม้จะมีความกังวลก่อนหน้าจะเดินทางมาทดสอบ แต่ตอนนี้ความรู้สึกของพวกเขาเปลี่ยนไป แน่นอนว่าเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดี เราคิดว่าตอนนี้เราพร้อมแล้ว และแทบอดใจรอจะได้เห็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่แบบนี้แทบไม่ไหวในเดือนตุลาคมนี้" นายตนัยศิริ ทิ้งท้าย

แฟนมอเตอร์สปอร์ตสามารถซื้อบัตรเข้าชม ศึก โมโตจีพี ครั้งแรกของประเทศไทย รายการ "พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018" ได้แล้ววันนี้พร้อมรับสิทธิพิเศษและส่วนลดมากมาย ผ่านทาง เคาน์เตอร์เซอร์วิส ออลล์ทิคเก็ต ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และ ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์เคาน์เตอร์เซอร์วิส รวม 12,000 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ allticket.com ติดตามรายละเอียดทั้งหมดได้ทาง www.allticket.com , www.facebook.com/allticketth และ www.facebook.com/BuriramUnitedInternationalCircuit

https://www.youtube.com/watch?v=6lu5tTmIvSI&feature=youtu.be