มีจุดหมายปลายทางใหม่ 15 แห่งที่ได้รับการจัดอันดับเป็นครั้งแรก และมีการมอบรางวัลครอบคลุมตะวันออกกลางและแอฟริกา ในปีนี้จึงมีจำนวนผู้ที่ได้รับรางวัลมากที่สุดและหลากหลายพื้นที่ที่สุด
ตะวันออกกลางประเดิมด้วยโรงแรมระดับห้าดาว 4 แห่ง ระดับสี่ดาว 21 แห่ง และโรงแรมแนะนำอีก 6 แห่ง ส่วนอเมริกาใต้คว้ารางวัลโรงแรมห้าดาวเป็นครั้งแรก
Forbes Travel Guide ฉลองครบรอบ 60 ปีในปี 2018 พร้อมประกาศปรับโฉมเว็บไซต์ใหม่
Forbes Travel Guide ฉลองครบรอบ 60 ปีอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการประกาศผลการจัดอันดับ Star Rating ครั้งที่ 60 เพื่อยกย่องสุดยอดโรงแรม ร้านอาหาร และสปาชั้นนำของโลกที่เพียบพร้อมด้วยบริการชั้นเลิศ
ผู้ชนะรางวัลประจำปี 2018 ประกอบด้วยโรงแรมระดับห้าดาว 27 แห่งใหม่ ระดับสี่ดาว 70 แห่งใหม่ และโรงแรมแนะนำ 76 แห่งใหม่ นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับรางวัลเป็นครั้งแรกยังรวมถึงร้านอาหารระดับห้าดาว 5 แห่ง ระดับสี่ดาว 24 แห่ง และร้านแนะนำอีก 10 แห่ง รวมถึงสปาระดับห้าดาว 5 แห่ง และระดับสี่ดาว 29 แห่ง สามารถดูผลการจัดอันดับทั้งหมดได้ที่ https://www.forbestravelguide.com/award-winners
Forbes Travel Guide จัดอันดับใน 50 ประเทศ ครอบคลุมทวีปอเมริกา ยุโรป เอเชียแปซิฟิก แอฟริกา และตะวันออกกลาง สำหรับจุดหมายปลายทางใหม่ๆที่ได้รับการจัดอันดับในปีนี้ประกอบด้วยอาบูดาบี อัมสเตอร์ดัม อารูบา เฉิงตู ดูไบ ฮอกไกโด จาเมกา กัวลาลัมเปอร์ มาดริด มาร์ราคิช โอกินาวา ปานามา ปราก ซานย่า และเวียนนา นอกจากนี้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี ทาง Forbes Travel Guide จะจัดอันดับครอบคลุมเพิ่มเป็น 60 ประเทศในปี 2019
Gerard J. Inzerillo ซีอีโอของ Forbes Travel Guide กล่าวว่า "ปี 2018 เป็นปีที่มีความหมายอย่างยิ่งสำหรับ Forbes Travel Guide โดยเป็นการเฉลิมฉลองช่วงเวลาสุดประทับใจตลอด 60 ปีในการให้บริการโรงแรมและผู้เข้าพัก ในฐานะแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุดสำหรับนักเดินทาง เราพร้อมเดินหน้าให้การรับรองสถานที่สุดหรูทั่วโลก เรายินดีที่ได้เชิดชูเหล่าผู้คว้ารางวัล Star Rating ประจำปี 2018 ที่ล้วนเป็นโรงแรม ร้านอาหาร และสปาที่มีความโดดเด่นและเป็นเลิศในเรื่องของวัฒนธรรมการบริการ ซึ่งในปีนี้มีจำนวนผู้ที่ได้รับรางวัลมากที่สุดและหลากหลายพื้นที่ที่สุดเท่าที่ทางบริษัทเคยจัดอันดับมา เราขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลทุกรายที่อุทิศตนเพื่อบริการอันเป็นเลิศ"
เนื่องในโอกาสที่ Forbes Travel Guide ฉลองครบรอบอย่างยิ่งใหญ่ ทางบริษัทได้เปิดตัวเว็บไซต์โฉมใหม่ที่ forbestravelguide.com เพื่อนำเสนอรายชื่อโรงแรม ร้านอาหาร และสปาติดดาวทั่วโลก ในรูปแบบที่สวยงามน่าอ่าน
ผู้ที่ได้รับรางวัลต่างได้รับเชิญให้เข้าร่วมงาน Verified, The Forbes Travel Guide Luxury Summit ณ โรงแรม The Beverly Hilton ในเบเวอร์ลีฮิลส์ ระหว่างวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์นี้ โดยจะมีเชฟคนดังเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง เช่น Geoffrey Zakarian และ Wilfrid Hocquet จากร้าน Georgie ในเบเวอร์ลีฮิลส์, Jean-Georges Vongerichten และ Richard Archuleta จากร้าน Jean-Georges Beverly Hills, William Bradley จากร้าน Addison Restaurant ในซานดิเอโก, Samir Roonwal จากร้าน The Blvd ในเบเวอร์ลีฮิลส์, Hilary Henderson จากร้าน CUT ในเบเวอร์ลีฮิลส์, Kaleo Adams จากร้าน The Polo Lounge ในเบเวอร์ลีฮิลส์, Giuseppe Manco จากร้าน The Restaurant at Mr. C ในเบเวอร์ลีฮิลส์, Craig Strong จากร้าน Studio ในลากูนาบีช, Hugo Bolanos จากร้าน Wolfgang Puck at Hotel Bel-Air ในเบเวอร์ลีฮิลส์ และ Derek Poirier จาก Valrhona นอกจากนี้ Moet & Chandon ผู้สนับสนุนแชมเปญอย่างเป็นทางการของ Forbes Travel Guide ในปีนี้ ยังช่วยเติมเต็มงานเฉลิมฉลองให้สนุกสนานยิ่งขึ้น ขณะที่ Diageo จะเป็นผู้ดูแลด้านเครื่องดื่ม ส่วน Luxe Bloom จะเป็นผู้จัดดอกไม้ภายในงาน
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีอย่างยิ่งใหญ่ Pan Am Experience ก็จะมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ โดยจะพาผู้ร่วมงานกลับไปสู่ยุคทองของการโดยสารเครื่องบิน ด้วยอีเวนต์ที่จัดขึ้นในธีมสายการบินย้อนยุค
ไฮไลท์ เทรนด์ และเรื่องน่ารู้ในการจัดอันดับปี 2018
ผู้ที่ได้รับรางวัลทั้งหมด 1,609 ราย ประกอบด้วย
- โรงแรมห้าดาว 199 แห่ง โรงแรมสี่ดาว 513 แห่ง และโรงแรมแนะนำ 309 แห่ง
- ร้านอาหารห้าดาว 64 แห่ง ร้านอาหารสี่ดาว 171 แห่ง และร้านอาหารแนะนำ 83 แห่ง
- สปาห้าดาว 60 แห่ง และสปาสี่ดาว 210 แห่ง
จุดหมายปลายทางใหม่และจุดหมายปลายทางที่โดดเด่น
- ตะวันออกกลางเปิดตัวด้วยการคว้ารางวัลมากมาย โดยมีโรงแรมห้าดาว 4 แห่ง (โรงแรม Burj Al Arab Jumeirah ในดูไบ, โรงแรม Emirates Palace ในอาบูดาบี, โรงแรม Four Seasons Hotel Dubai International Financial Centre และโรงแรม Four Seasons Resort Dubai at Jumeirah Beach) นอกจากนั้นยังมีโรงแรมสี่ดาว 21 แห่ง และโรงแรมแนะนำอีก 6 แห่ง
- อเมริกาใต้คว้ารางวัลโรงแรมห้าดาวได้เป็นครั้งแรก นั่นคือ โรงแรม Belmond Hotel das Cataratas ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางน้ำตกอิกัวซูในอุทยานแห่งชาติอิกัวซูของบราซิล
- เมืองมาร์ราคิชมีโรงแรมห้าดาว 2 แห่ง (โรงแรม Mandarin Oriental Marrakech และโรงแรม Royal Mansour Marrakech) โรงแรมสี่ดาว 2 แห่ง (โรงแรม Four Seasons Resort Marrakech และโรงแรม La Mamounia) และโรงแรมแนะนำ 2 แห่ง (โรงแรม Amanjena และโรงแรม Selman Marrakech)
- มหานครนิวยอร์กมีโรงแรมห้าดาว 2 แห่งใหม่ ได้แก่ โรงแรม Baccarat Hotel and Residences และโรงแรม Four Seasons Hotel New York Downtown และมีโรงแรมสี่ดาว 1 แห่งใหม่ นั่นคือโรงแรม Archer Hotel New York
- เมืองมิวนิกมีโรงแรมห้าดาว 1 แห่งใหม่ นั่นคือโรงแรม Mandarin Oriental Munich และมีโรงแรมสี่ดาวแห่งใหม่หลายแห่ง ได้แก่ โรงแรม The Charles Hotel - a Rocco Forte Hotel, โรงแรม Hotel Bayerischer Hof และโรงแรม Hotel Vier Jahreszeiten Kempinski Munich นอกจากนั้นยังมีโรงแรมแนะนำแห่งใหม่ นั่นคือโรงแรม Hotel Munchen Palace และโรงแรม Sofitel Munich Bayerpost
- ญี่ปุ่นมีโรงแรมติดดาวเพิ่มขึ้นหลายแห่ง โดยเมืองเกียวโตมีโรงแรมห้าดาวแห่งแรก ได้แก่ โรงแรม The Ritz-Carlton ขณะที่โรงแรม Four Seasons Hotel Kyoto และโรงแรม Suiran - a Luxury Collection Hotel ได้รับรางวัลสี่ดาว และโรงแรม Kyoto Hotel Okura ก็ขึ้นแท่นโรงแรมแนะนำ ส่วนในโตเกียว โรงแรม Shangri-La Hotel ได้รับรางวัลห้าดาว ขณะที่โรงแรม The Capitol Hotel Tokyu และโรงแรม Prince Gallery Tokyo Kioicho คว้ารางวัลสี่ดาวมาครอง
- โรงแรมอิสระทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยโรงแรม Le Richemond Geneve, โรงแรม Magee Homestead ในไวโอมิง, โรงแรม Meadowood Napa Valley, โรงแรม Nemacolin Woodlands Resort -- Falling Rock ในเพนซิลเวเนีย และโรงแรม Williamsburg Inn ในเวอร์จิเนีย คว้ารางวัลห้าดาวมาครองเป็นครั้งแรก
- โรงแรม Waldorf Astoria Beverly Hills เป็นโรงแรมแห่งแรกในเครือ Hilton ที่ได้รับรางวัลห้าดาวในซีกโลกตะวันตก ขณะเดียวกัน โรงแรมในเครืออย่าง Waldorf Astoria Shanghai ก็คว้ารางวัลห้าดาวมาครองเช่นกัน
- โรงแรม Rosewood Beijing เป็นโรงแรมแห่งแรกในเครือ Rosewood ที่ได้รับรางวัลห้าดาวในเอเชีย โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรม Rosewood แห่งแรกในประเทศจีน ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2014 นอกจากนี้ โรงแรม The Peninsula Beijing ก็คว้ารางวัลห้าดาวเช่นกัน
- โรงแรม Trump Hotels คว้ารางวัลห้าดาวทั้งในวอชิงตันดีซีและแวนคูเวอร์ ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกที่โรงแรมเปิดใหม่ได้รับรางวัลนี้
- ริเวียรานายาริต กลายเป็นจุดหมายปลายทางสุดหรูแห่งใหม่ โดยมีโรงแรมห้าดาวแห่งใหม่อย่าง St. Regis Punta Mita Resort และโรงแรมสี่ดาวแห่งใหม่อย่าง Grand Velas Riviera Nayarit
- Forbes Travel Guide ขยายความครอบคลุมด้วยการจัดอันดับให้กับจุดหมายปลายทางใหม่ๆ เช่น อัมสเตอร์ดัม (โรงแรมสี่ดาว Conservatorium, De L'Europe Amsterdam และ Hotel Okura Amsterdam รวมถึงโรงแรมแนะนำ Andaz Amsterdam Prinsengracht, The Dylan, Hotel Pulitzer Amsterdam, InterContinental Amstel Amsterdam, Sofitel Legend The Grand Amsterdam และ W Amsterdam) และเวียนนา (โรงแรมสี่ดาว Hotel Sacher Wien, Palais Coburg, Palais Hansen Kempinski และ The Ritz-Carlton Vienna พร้อมด้วยโรงแรมแนะนำ Grand Hotel Wien, Hotel Bristol - A Luxury Collection Hotel, Hotel Imperial - A Luxury Collection Hotel, Hotel Sans Souci Wien, Park Hyatt Vienna และ The Ring Hotel Vienna)
ดาวเด่นในส่วนของโรงแรม ร้านอาหาร และสปา
- มีผู้ให้บริการ 13 รายที่คว้ารางวัลห้าดาวทั้งในส่วนของโรงแรม ร้านอาหาร และสปา ได้แก่ Banyan Tree Macau, The Broadmoor ในโคโรลาโดสปริงส์, The Cloister ในซีไอแลนด์ จอร์เจีย, Fairmont Grand Del Mar ในซานดิเอโก, The Landmark Mandarin Oriental ในฮ่องกง, Mandarin Oriental ในลาสเวกัส, Mandarin Oriental ในมาเก๊า, Meadowood Napa Valley, Montage Laguna Beach, Ocean House ในวอชฮิลล์ โรดไอแลนด์, The Peninsula Hong Kong, Wynn Las Vegas และ Wynn Palace Macau
- Altira Macau และ Four Seasons Hotel Hong Kong ได้รับรางวัลห้าดาวถึง 4 รางวัลจากโรงแรม สปา และร้านอาหาร 2 แห่ง
- Nuwa Macau ได้รับรางวัลห้าดาวถึง 5 รางวัลจากโรงแรม สปา และร้านอาหาร 3 แห่ง
- Mandarin Oriental Hong Kong และ Wynn Macau ประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้วยการคว้ารางวัลห้าดาวมากถึง 6 รางวัลจากโรงแรม สปา และร้านอาหาร 4 แห่ง
ดาวเด่นในส่วนของโรงแรม
- ในสหรัฐ เมืองที่มีโรงแรมห้าดาวมากที่สุด ได้แก่ นิวยอร์ก (10), เบเวอร์ลีฮิลส์ (6), ลาสเวกัส (5) และไมอามี (5)
- ในระดับโลก เมืองที่มีโรงแรมห้าดาวมากที่สุดคือมาเก๊า (12) หลังจากที่เสมอกับปารีสในปีที่แล้ว (10) สำหรับเมืองอื่นๆที่มีโรงแรมห้าดาวมากที่สุด ได้แก่ ปารีส (10), ลอนดอน (9) และฮ่องกง (8)
ดาวเด่นในส่วนของร้านอาหาร
- ในสหรัฐ เมืองที่มีร้านอาหารห้าดาวมากที่สุด ได้แก่ นิวยอร์ก (7) และลาสเวกัส (6)
- ในระดับโลก เมืองที่มีร้านอาหารห้าดาวมากที่สุด ได้แก่ มาเก๊า (12) และฮ่องกง (9)
- Disney คว้ารางวัลร้านอาหารห้าดาวได้เป็นครั้งแรกจาก Victoria & Albert's ร้านอาหารสุดหรูที่ควรค่าแก่การเยี่ยมเยือนใน Walt Disney World Resort เมืองออร์แลนโด
ดาวเด่นในส่วนของสปา
- ในสหรัฐ รัฐที่มีสปาห้าดาวมากที่สุด ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย (9), ฟลอริดา (5) และเนวาดา (5) โดยรัฐแคลิฟอร์เนียมีสปาห้าดาวแห่งใหม่ ได้แก่ The Spa at Rancho Valencia ในเมืองซานดิเอโก
- Luna y Mar ในลอสคาบอส และ The Spa at Mandarin Oriental ในกว่างโจว ถือเป็นสปาห้าดาวแห่งแรกในเมืองดังกล่าว
- ในระดับโลก เมืองที่มีสปาห้าดาวมากที่สุด ได้แก่ มาเก๊า (8), ฮ่องกง (5), ลาสเวกัส (5) และเซี่ยงไฮ้ (4)
เกี่ยวกับ FORBES TRAVEL GUIDE
วิธีการของ Forbes Travel Guide ในการให้ดาว: https://www.forbestravelguide.com/about
รายชื่อผู้ได้รับรางวัล Forbes Travel Guide 2018: https://www.forbestravelguide.com/award-winners
Forbes Travel Guide คือผู้จัดอันดับโรงแรม ร้านอาหาร และสปาสุดหรูเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นอิสระและมีความครอบคลุมทั่วโลก โดยเริ่มต้นจากการเป็น Mobil Travel Guide ในปี 1958 และเป็นระบบจัดอันดับห้าดาวระบบแรกในสหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน นักตรวจสอบผู้ไม่เปิดเผยตัวของ Forbes Travel Guide เดินทางไปทั่วโลกเพื่อประเมินสถานที่ต่างๆ โดยยึดมาตรฐานที่เคร่งครัดและยุติธรรมถึง 900 รายการ การให้ดาวประจำปีและการแบ่งปันเรื่องราวการเดินทางในแต่ละวันจาก Forbes Travel Guide ช่วยให้นักเดินทางสามารถตัดสินใจเลือกประสบการณ์ความหรูหราชั้นเลิศระดับโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ forbestravelguide.com
ติดตาม Forbes Travel Guide ได้ที่
Instagram: http://www.instagram.com/ForbesTravelGuide
Twitter: http://www.twitter.com/ForbesInspector
Facebook: http://www.facebook.com/ForbesTravelGuide
สื่อมวลชนติดต่อ
สหรัฐอเมริกา หรือ JERRY INZERILLO
Key Group Worldwide
keygroup.tv
Jaret Keller: [email protected]
Tara Halper: [email protected]
ต่างประเทศ
Ruder Finn
ruderfinnasia.com
Tripti Gusain: [email protected]
Manali Pattnaik: [email protected] +65-91269831