กยท. แจงหยุดกรีดยางเพิ่ม 2 ล้านไร่ แค่แนวคิด เปิดทุกภาคส่วนเสนอความเห็นก่อนเคาะมาตรการ

จันทร์ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๘ ๑๑:๔๑
การยางแห่งประเทศไทย ชี้แจงมาตรการหยุดกรีดยาง 2 ล้านไร่ ช่วงเดือน พ.ค.-ก.ค. ยังเป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น เปิดรับฟังทุกภาคส่วนเสนอความเห็นร่วมกันเพื่อวิเคราะห์ความเหมาะสมและเป็นไปได้ของมาตรการหยุดกรีดนี้ ว่าจะเกิดผลดีผลเสียเช่นไรต่อสถานการณ์ยางพาราในประเทศไทย ก่อนนำมาตรการดังกล่าวนี้มาใช้

ดร.ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การหยุดกรีดยางในพื้นที่สวนยางของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่นั้น เป็นส่วนหนึ่งของโครงการควบคุมปริมาณผลผลิต ภายใต้มาตรการการรักษาเสถียรภาพราคายางที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำมาใช้เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางควบคู่ไปกับมาตรการต่างๆ โดยเน้นเฉพาะในช่วงเดือน ม.ค. - มี.ค. 61 ต่อมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีแนวคิดขยายการหยุดกรีดยางเพิ่มเติมออกไปในพื้นที่ของประชาชนทั่วไปที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง จำนวน 2 ล้านไร่ ในช่วงเวลา 3 เดือน คือ เดือน พฤษภาคม-กรกฎาคม 2561 อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ปริมาณผลผลิตในตลาดลดลง(supply) ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ราคายางเพิ่มสูงขึ้นตามกลไกตลาด

"ขอย้ำว่าการขยายโครงการหยุดการกรีดยาง (tapping holiday) ยังคงเป็นเพียงแนวคิดเพื่อนำเสนอให้สาธารณชนไม่ว่าจะเป็น ภาครัฐ ภาคเกษตรกร และสถาบันเกษตรกร รวมไปถึงผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับยางพาราได้หารือระดมความคิดร่วมกัน และนำมาวิเคราะห์ความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของมาตรการหยุดกรีดนี้ ว่าจะเกิดผลดีผลเสียเช่นไรต่อสถานการณ์ยางพาราในประเทศไทย รวมทั้งควรมีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไรในการชะลอหรือหยุดกรีดยางเพื่อให้มีประสิทธิภาพโดยไม่เสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์"

ดังนั้น การหยุดกรีดยางจำนวน 2 ล้านไร่ จึงยังมิได้เป็นมาตรการที่จะดำเนินการทันทีอย่างที่มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนกันอยู่ เพราะกระทรวงฯ ยังคงมีมาตรการอื่นๆ ในการผลักดันให้สถานการณ์ของยางพาราไปในทิศทางที่ดีขึ้น อีกหลายมาตรการ เช่น โครงการสนับสนุนสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง) วงเงิน 20,000 ล้านบาท โครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง วงเงิน 15,000 ล้านบาท เป็นต้น

"สำหรับประเด็นการขโมยกรีดยางในสวนยางของภาครัฐ โครงการควบคุมปริมาณผลผลิตโดยให้หยุดกรีดยางในช่วง ม.ค. - มี.ค. นั้น หากมีการตรวจสอบพบว่ามีลูกจ้างกรีดยาง กยท.รายใดที่กระทำความผิด จะต้องถูกลงโทษ เป็นไปตามการดำเนินการความผิดทางวินัยตามข้อบังคับคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย ว่าด้วยวินัยและการลงโทษพนักงานและลูกจ้างประจำ และอาจถูกดำเนินคดีอาญาฐานลักทรัพย์นายจ้างด้วย ในกรณีที่มีการลักลอบกรีดยางและรับซื้อยางพาราอันเกิดจากการกระทำของบุคคลภายนอก ให้หัวหน้าส่วนงานที่รับผิดชอบดำเนินการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่ที่รับผิดชอบเพื่อดำเนินคดีอาญาต่อไป" ดร.ธีธัช กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ