นายทชากร ลีลาประชากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยมุ้ย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ THMUI ผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายลวดสลิงและอุปกรณ์ยกหิ้วคุณภาพสูง ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ผลิตแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจปี 2561 จะเป็นอีกปีที่ดีที่สุดของบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้จากการขายและบริการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปี 2560 เนื่องจากได้รับอานิสงส์การลงทุนในโครงการต่างๆ ของภาครัฐบาลและเอกชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายธุรกิจตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งจะมีการลงทุนก่อสร้างอาคาร ท่าเรือ สนามบิน และรถไฟ เป็นต้น ทำให้ THMUI ได้รับประโยชน์จากลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มก่อสร้าง, กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม, ท่าเรือ, โรงไฟฟ้า เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ลดต้นทุน การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนการนำเข้ามากกว่า 60% ของต้นทุนสินค้าทั้งหมด และอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับลูกค้าโครงการรายเดิมในการขายผลิตภัณฑ์ท่อ และอุปกรณ์ท่อ ต่อเนื่องในเฟสที่ 2 และ 3 หลังจากบริษัทฯ ได้งานโครงการท่อ เฟสที่ 1 เข้ามาในไตรมาส 3/2560 ที่ผ่านมา และโครงการท่อ เฟสที่ 2 มีความต้องการสินค้ามูลค่ามากกว่าเฟสแรกหลายเท่าตัว
"จับตาดูปี 2561 นี้ บริษัทฯ เชื่อว่า ปัจจัยบวกอีกมากมายเข้ามาสนับสนุนผลประกอบการ THMUI ให้เติบโตแข็งแกร่ง รับภาพรวมอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศคึกคัก จากแผนการลงทุนของภาครัฐบาลและเอกชน อาทิ แผนการลงทุนตามแผนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก และพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 และเฟส 4 เป็นต้น ซึ่งท่าเรือแหลมฉบังเป็นลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าเราเกือบ 100% อยู่แล้ว แผนการขยายของท่าเรือกรุงเทพ และ บมจ. สหไทย เทอร์มินอล ซึ่งเป็นลูกค้าของ THMUI เช่นกัน รวมทั้ง ส่วนขยายงานก่อสร้างต่างๆ อาทิ บมจ.ช.การช่าง , บมจ.ไพลอน , บมจ.ซีฟโก้ เป็นต้น ดังนั้น ลวดสลิง อุปรณ์ยกหิ้ว และสินค้าอื่นๆ ที่บริษัทจัดจำหน่าย เป็นสินค้าจำเป็นมีความต้องการใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม จึงเป็นโอกาสในการเติบโตของ THMUI และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงลูกค้ากลุ่มใดเป็นพิเศษ " นายทชากร กล่าว
อย่างไรก็ตาม เงินที่ได้จากการระดมทุนในช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมา จะเริ่มเข้ามามีผลต่อภาพรวมธุรกิจในปี 2561 นี้ โดยเงินที่ได้นำไปใช้ซื้อเครื่องทดสอบแรงดึงขนาด 400 ตัน ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาติดตั้งและพร้อมใช้งานในเดือนเมษายนปี 2561 และเงินอีกส่วนหนึ่งนำไปใช้ก่อสร้างโกดังสินค้า เพื่อจัดเก็บสินค้า เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน ให้บริษัทฯ สามารถสต็อกสินค้ารองรับลูกค้าขนาดใหญ่ได้มากขึ้น และเพิ่มโอกาสการเปลี่ยนลูกค้าจากสัญญาเป็นรายครั้งให้เป็นสัญญาระยะยาวได้ ควบคู่กับการเพิ่มทีมบริการตรวจสอบลวดสลิง สนับสนุนรายได้จากค่าบริการให้เพิ่มขึ้น เพราะตามกฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน กำหนดให้ต้องมีการตรวจสอบลวดสลิงและอุปกรณ์ยกหิ้วให้อยู่ในสภาพปลอดภัยพร้อมใช้งาน และเปลี่ยนทันทีเมื่อมีการสึกหรอ
นอกจากนี้ THMUI เล็งเห็นโอกาสขยายธุรกิจในแถบประเทศเพื่อนบ้าน CLMV โดยเฉพาะลูกค้าในตลาดท่าเรือซึ่งเรามีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทท่าเรือในประเทศเพื่อนบ้านรายหนึ่ง เพื่อให้ดีลเกิดประโยชน์ต่อบริษัทฯ มากที่สุด หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบในลำดับถัดไป ตอกย้ำ ภาพรวมธุรกิจปีนี้ จะเป็นอีกปีที่ดีของ THMUI อย่างแน่นอน
สำหรับผลประกอบการปี 2560 รายได้รวมอยู่ที่ 387.36 ล้านบาท กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 150.52 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21.34 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้น 38.86 % และอัตรากำไรสุทธิ 5.51% เป็นผลจากการจัดจำหน่ายลวดสลิง และอุปกรณ์ยกหิ้ว รวมทั้ง ได้รับงานโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมในปีที่ผ่านมา แม้จะมีค่าใช้จ่ายจากการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาหลักทรัพย์ ตั้งเป้าปี 2561 ไม่น้อยหน้า วางเป้ารายได้จากการขายและบริการโตอีก 20 % จากปี 2560 ควบคู่กับการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีอย่างต่อเนื่องได้