นางปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT ผู้ประกอบธุรกิจโทรคมนาคมแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2561 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2560 ในอัตรา 0.04 บาท/หุ้น กำหนดวันจ่ายเงินปันผลเป็นวันที่ 24 พฤษภาคม 2561 โดยให้ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 4 พฤษภาคม 2561 โดยกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ในวันที่ 26 เมษายน เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
ขณะที่ผลประกอบการประจำปี 2560 บริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้รวม 1,258.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 56.9 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักมาจากรายได้จากจำนวนการสร้างสถานีฐานซึ่งเป็นรายได้หลักลดลง เนื่องจากผู้ประกอบการ Operators หลายรายได้ชะลอการลงทุน อีกทั้งบริษัทฯ ได้มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเพื่อให้เช่าในหลายโครงการ และเป็นช่วงเริ่มต้นของโครงการ รายได้จากการให้บริการโครงข่ายจึงยังไม่มากพอที่จะชดเชยกับค่าเสื่อมราคาที่เริ่มรับรู้
"เชื่อมั่นว่าแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเพื่อให้เช่าจะส่งผลทำให้แนวโน้มผลการดำเนินงานในระยะยาว มีรายได้จากค่าเช่า (Recurring Income) อันเป็นผลมาจากการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้นในปีที่ผ่านมา และวางรากฐานเอาไว้เพื่อให้มีรายได้ที่สม่ำเสมอ โดยอาศัยกลยุทธการเสริมสร้างจุดแข็งด้วยการแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจที่เข้มแข็งและมีแนวนโยบายที่ส่งเสริมเกื้อกูลกัน เราไม่มีข้อจำกัดเรื่องขนาดและสัญชาติของพันธมิตร จะเล็กหรือใหญ่ ไทยหรือต่างประเทศ แค่มีแนวคิดและแผนกลยุทธ์ที่สอดรับกัน เรายินดี ด้วยแนวคิดนี้ จะช่วยให้เราประหยัดทั้งเงินทุนและเวลาที่ต้องใช้ไป เรามั่นใจว่าจะสามารถก้าวกระโดดให้พ้นจากข้อจำกัดกรอบของประเภทรายได้แบบเดิมๆ ได้ โดยเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนของผลกำไรที่มาจากรายได้ประจำให้อยู่ในสัดส่วนร้อยละ 50 ของผลกำไรรวมภายในปี 2563 ยังอยู่ในวิสัยที่จะบรรลุได้ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเห็นผลตอบแทนที่ดีได้ภายในปีแรก แต่ผลประกอบการจะเริ่มผลิดอกออกผลในอีกหลายปีข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการลดภาวะรายได้ผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ และลดการพึ่งพิงการลงทุนของ Operator แต่เพียงอย่างเดียวอีกด้วย" นางปรีญาภรณ์ กล่าวในที่สุด
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2561 บริษัทฯ มุ่งเน้นขยายขอบเขตการให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานในธุรกิจโทรคมนาคมแบบครบวงจร เพื่อตอบโจทย์แก่กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ และสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย ให้เพียงพอต่อความต้องการของประชากร ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการเชื่อมโยงระบบการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0