นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟอร์รั่ม จำกัด (มหาชน) หรือ FER ผู้ประกอบธุรกิจตัวแทนนายหน้าในการจัดจำหน่ายแก๊ส LPG, ธุรกิจพลังงานทางเลือก และธุรกิจระบบวิทยุสื่อสารเฉพาะกิจ เปิดเผยถึง ผลประกอบการไตรมาส 4/2560 สามารถพลิกกลับมาเป็นกำไร จากการลุยธุรกิจพลังงานทางเลือก และการบริหารจัดการภายในโดยทีมบริหารชุดใหม่ประสบความสำเร็จ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 20.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2560 จำนวน 37.79 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 217 สาเหตุหลักมาจากการรับรู้รายได้ของบริษัท มิตรประสงค์ กรีนเพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวภาพ กำลังการผลิต 4.5 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา และปริมาณการผลิตไฟฟ้าของบริษัท พระแสงกรีนเพาเวอร์ จำกัด ที่เพิ่มขึ้นจากการบริหารจัดการที่ดีขึ้น ส่งผลให้รายได้ในกลุ่มพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น รวมทั้ง การเติบโตของกำไรขั้นต้นในธุรกิจตัวแทนนายหน้าแก๊ส LPG ของบริษัท สตาร์แก๊ส จำกัด จากการขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้น และยังคงเน้นรักษายอดขายในกลุ่มค้าปลีกที่ให้มาร์จิ้นสูง
ภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งปี 2560 มีรายได้จากการขายและบริการ 563.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 106.58 กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 140.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 512 และบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 207.92 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2559 บริษัทฯ มีผลขาดทุน 181.01 ล้านบาท ผลของการขาดทุนส่วนใหญ่เกิดจาก การปรับปรุงรายการทางบัญชี อาทิ การตั้งสำรองการลดลงมูลค่าของภาษีซื้อและภาษีเงินได้ถูกหัก ณ ที่จ่าย เป็นต้น
"ในปี 2560 ที่ผ่านมา นับเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างของบริษัทฯ โดยได้เข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของFER ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน ปี 2560 และได้ทีมงานชุดใหม่เข้ามาเสริมทีมเป็นปีแรก ทำการเก็บกวาดบ้านกันชุดใหญ่ โดยมีเป้าหมายสร้างการเติบโตให้ธุรกิจมีกำไรอย่างยั่งยืน หนุนผลประกอบการไตรมาส 4/2560 พลิกกลับมาเป็นกำไรเป็นไตรมาสแรกได้ หลังจากขาดทุน 2 ปีต่อเนื่อง
สำหรับภาพรวมธุรกิจปี 2561 มั่นใจจะกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้อย่างแน่นอน โดยเห็นสัญญาณบวกต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4/2560 ที่ผ่านมา และคาดว่าแนวโน้มไตรมาส 1/2561 ยังอยู่ในทิศทางที่ดี นอกจากนั้น บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษา พัฒนา และมีแผนลงทุนโครงการอื่นๆ เพิ่มเติมโดยพิจารณาผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ เป็นอีกภาพสะท้อนว่าเราไม่เคยหยุดนิ่งในการเติบโต"นางสาวเดือนพรรณ กล่าว
ทั้งนี้ ใบสำคัญแสดงสิทธิ (FER-W3) ได้หมดอายุลงเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561 โดยมีผู้ถือหน่วยมาใช้สิทธิรวมทั้งสิ้น 716,737,785 หน่วย ราคาใช้สิทธิ 0.50 บาท มีนักลงทุนให้ความเชื่อมั่นใช้สิทธิเข้ามามากถึงร้อยละ 93% ของจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ (FER-W3) ที่ออกและเสนอขายทั้งหมด พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติแจ้งเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัท เป็น บริษัท เซเว่น ยูทิลิตีส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (Seven Utilities and Power Public Company Limited) โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์เป็น 7UP ซึ่งอยู่ระหว่างการขออนุมัติผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 เมษายน 2561 นี้