ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (PPS) เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 60 บริษัทมีรายได้รวม 396.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 319.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24.11 % และมีกำไรสุทธิ 55.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 32.17 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 71.46% โดยผลประกอบการของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากงานก่อสร้างโครงการต่างๆ ที่บริษัทให้บริการอยู่มีการรับรู้รายได้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 31.91 ล้านบาท หรือคิดเป็น 68.05% ของกำไรสุทธิปี 2560 กำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล(Record Date) ในวันที่ 9 พ.ค.61 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 23 พ.ค.61 (ขออนุมัติจากประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 25 เม.ย. 61 )
อีกทั้งยังมีมติอนุมัติให้ทำการศึกษาธุรกิจ Fintech Platform แพลตฟอร์มการลงทุนในอุตสาหกรรมก่อสร้างรูปแบบใหม่ เพื่อจัดตั้ง บริษัท โปรฟิน กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับ บริษัท ฟินเทค (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เวโลพาร์ค จำกัด ดำเนินธุรกิจ Project Financing ซึ่งมีแผนระดมทุนผ่าน ICO Profin coin และพร้อมที่จะปฏิบัติตามกฏระเบียบของหน่วยงานที่จะเข้ามาดูแลในอนาคต
สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทมีแผนปรับโครงสร้างการดำเนินงานจากเดิมที่ดำเนินธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการเป็นธุรกิจหลัก สู่การเป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านการบริหารจัดการโครงการแบบครบวงจร (Main Information Consultant) โดยจะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาพร้อมให้ข้อมูลตั้งแต่ก่อนก่อสร้างจนถึงก่อสร้างแล้วเสร็จ ตลอดจนให้คำปรึกษาด้านอาคารพลังงานภายใต้ บริษัท สะพัฒน์ โปรเจค จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านการบริหารจัดการอาคารและอสังหาริมทรัพย์ให้มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งขณะนี้มีการเซ็นสัญญากับลูกค้าทั้งหมด 5 โครงการ เริ่มดำเนินงานและคาดว่าจะรับรู้รายได้ในช่วง Q1/61 เป็นต้นไป และยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายราย
"PPS ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ไว้ไม่ต่ำกว่า 450 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 20% และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 10% โดยในส่วนของธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จาก Backlog (ธันวาคม) ของบริษัทที่มีอยู่ 374 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2563 ขณะเดียวกันบริษัทยังเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน ขณะที่ธุรกิจในส่วนอื่นๆ อาทิ งานออกแบบ งานบริหารจัดการอาคารพลังงาน งานบริหารจัดการข้อมูลโครงการ ตลอดจนธุรกิจใหม่ด้าน Project Financing จะเข้ามามีส่วนเสริมการเติบโตอย่างมีศักยภาพของบริษัท" ดร.พงศ์ธร กล่าว