บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดตัวกอง SCBFIN ลุยตราสารหนี้ทั่วโลกผ่านกองทุน เจ.พี.มอร์แกน ชูจุดเด่นโอกาสสร้างผลตอบแทนรวมที่เหนือกว่าในระยะยาว

พุธ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๘ ๑๗:๔๗
นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม (SCBFIN) ซึ่งลงทุนในตราสารหนี้ โดยมีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว(Feeder Fund) คือ JPMorgan Funds Global Bond Opportunities Fund (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน (share class) C (acc) สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยจะเริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 5 มีนาคมศกนี้ มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท

ทั้งนี้ กองทุน JPMorgan Funds Global Bond Opportunities บริหารงานโดย J.P. Morgan Asset Management มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกทั้งตลาดประเทศพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่อย่างน้อยร้อยละ 67 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน โดยจะลงทุนโดยตรงหรือผ่านการใช้ตราสารอนุพันธ์ทางการเงินในตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาล หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรระหว่างประเทศ ตลอดจนตราสารหนี้ภาคเอกชน และอาจลงทุนในหลักทรัพย์ประเภท Asset-Backed Securities (ABS) และ หลักทรัพย์ที่มีสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ค้ำประกัน(Mortgage-Backed Securities : MBS) เพื่อสามารถสร้างผลตอบแทนรวม (Total Return) ที่เหนือกว่าในระยะยาว สำหรับพอร์ตการลงทุนในทรัพย์สินหลักๆ ประกอบด้วย ตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีการจัดอันดับความเชื่อถือในระดับลงทุนได้ตราสารหนี้ high yield พันธบัตรรัฐบาล และกลุ่มของตราสาร securitized ที่ได้กล่าวไปข้างต้น

จุดเด่นของกองทุน JPMorgan Funds Global Bond Opportunities คือ อยู่ภายใต้การบริหารงานโดย J.P.Morgan Asset Management ซึ่งมีทีมผู้เชี่ยวชาญกว่า 280 คนกระจายอยู่ใน 7 ประเทศทั่วโลก และมีความชำนาญในแต่ละ sector ที่ช่วยในการคัดเลือกสินทรัพย์แต่ละประเภท โดยผู้จัดการกองทุนสามารถปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนได้อย่างยืดหยุ่นตามสภาพตลาด นอกจากนี้ ยังมีความหลากหลายในการลงทุนตราสารหนี้ที่กว้างถึง 15 ประเภทในกว่า 50 ประเทศ และมีการบริหารพอร์ตแบบผสมผสานกลยุทธ์การลงทุนทั้ง Top Down และ Bottom Up ซึ่งหมายถึงการให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค ไปจนถึงการวิเคราะห์รายบริษัท ทำให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าตราสารหนี้แบบดั้งเดิมทั่วไปด้วยความผันผวนที่ต่ำกว่า โดยมีดูเรชั่นเฉลี่ยของตราสารหนี้ที่ถือครอง (Average Duration) อยู่ที่ 3.24 ปี ต่ำกว่าดัชนีชี้วัด Bloomberg Barclays Multiverse Index ซึ่งอยู่ที่ 6.75 ปี (ที่มา : SCBAM ณ 31 ม.ค.2561)

อย่างไรก็ตามกองทุนหลักดังกล่าวเป็นกองทุนที่มีผลการดำเนินงานนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556 ให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยสูงถึง 4.10% ต่อปี และมีผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่6.47% สูงกว่าเมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัดซึ่งอยู่ที่ 3.02% ขณะเดียวกันกองทุนยังได้รับการจัดอันดับ Overall Morningstar 4ดาว ทั้งนี้กองทุนมีสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารจัดการอยู่ที่ 5,670.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ที่มา : SCBAM ณ 31 ม.ค. 61)

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ