นายศาศวัต ศิริสรรพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SQ กล่าวว่า "สำหรับผลประกอบการปี 2560บริษัทฯมีรายได้รวม 3,186 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากรายได้รวม 2,912 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรขั้นต้น 832 ล้านบาท เติบโตจากกำไรขั้นต้น 828ล้านบาทในปี 2559 และบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 360 ล้านบาท เติบโตถึง 12% จากกำไรสุทธิ 323 ล้านบาทในปีก่อน โดยบริษัทฯรับรู้รายได้จากการขุดขนดินและขุดขนถ่านมากขึ้น 263 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักมาจากโครงการแม่เมาะ 8 ซึ่งมีมูลค่างานกว่า 22,000 ล้านบาท และมีระยะสัญญาดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคม2559 – เดือนธันวาคม 2568 โดยบริษัทฯได้ติดตั้งและเริ่มเดินเครื่องจักรขนาดใหญ่ มูลค่ากว่า 7,300 ล้านบาท ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และจะเดินเครื่องจักรอย่างเต็มกำลังในเดือนมีนาคมปีนี้ ซึ่งการเดินเครื่องจักรในครั้งนี้ จะทำให้ปริมาณการขุดขนดินเพิ่มขึ้นประมาณ 400 % กว่าปีก่อน จะส่งผลให้รายได้และกำไรเติบโตตามไปด้วย"
นายศาศวัต กล่าวเสริมว่า "ในปัจจุบัน บริษัทฯมีปริมาณงานคงเหลือในมือประมาณ 35,448 ล้านบาท รองรับการรับรู้รายได้ประมาณ 9 ปี ซึ่งสามารถแบ่งเป็น งานโครงการแม่เมาะ 8 มูลค่าประมาณ 20,452 ล้านบาท, งานโครงการหงสา ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มูลค่าประมาณ 9,907 ล้านบาท และล่าสุดบริษัทฯ ได้รับงานเพิ่มจากโครงการหงสา มูลค่ากว่า 1,036 ล้านบาท งานโครงการ
แม่เมาะ 7 มูลค่าประมาณ 1,417 ล้านบาท, งานเหมืองแร่ดีบุก เมืองเฮนดา สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า มูลค่าประมาณ 3,672 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นกว่า 36,484ล้านบาท ทั้งนี้ทางสหกลอิควิปเมนท์ กำลังเสนองานโครงการใหญ่หลายโครงการในปี 2561 มูลค่ารวมมากกว่า 55,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจากโครงการแม่เมาะ9 มูลค่า 36,000 ล้านบาท และโครงการโปแตช ชัยภูมิ มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท"
อนึ่ง นักวิเคราะห์ จาก บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงค์ กิมเอ็ง จำกัด (มหาชน) ชี้แนวโน้มผลประกอบการของสากล อิควิปเมนท์ (SQ) ว่าจะโดดเด่นจริงๆในปี2561 โดยคาดว่า SQ จะมียอดรับรู้รายได้ประมาณ 4,488 ล้านบาท เติบโต 42% และ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 490 ล้านบาท เติบโต 36%
บริษัท สหกล อิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SQ เป็นผู้รับเหมางานเหมืองแร่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและภูมิภาค CLMV มีความพร้อมทั้งทางด้านบุคลากรที่มีความรู้และความสามารถเฉพาะด้าน มีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในธุรกิจเหมืองมากว่า 34 ปี และยังครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50 % อีกด้วย พร้อมทั้งยังมีเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่สามารถตอบสนองกับลักษณะงานเหมืองได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ