นอกจากเป็นจุดเด่นที่น่าติดตาม การเดินทางครั้งนี้ยังเป็นทัวร์ประวัติศาสตร์เนื่องจากสถาบันสมิธโซเนียนได้ให้เกียรติเชิญสยาม ซินโฟนิเอตต้าไปบรรเลงที่ "เรเกน แอมพิเธียร์เตอร์" ณ กรุงวอชิงตัน ในวาระที่จะมีการแถลงเรื่องการค้นพบเอกสารเกี่ยวกับเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ในหอสมุดสภาสูง ซึ่ง ดร. พอล เทย์เล่อร์ แห่งสถาบันฯ เป็นคนแรกที่นำมาเปิดเผยให้โลกรู้โดยผ่านโครงการรวมเพลงพระราชนิพนธ์ "48 คงอยู่คู่ฟ้า" อันเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างสถาบันสมิธโซเนียนกับโครงการ "48 FOREVER" (48 คงอยู่คู่ฟ้า) และสถาบันการศึกษาไทยเพื่อศึกษาข้อมูลในเอกสาร ซึ่งจะเป็นจุดสนใจของนักวิชาการ นักศึกษาและคนรักเพลงในหลวงอีกหลายชั่วอายุขัยในกาลอนาคต
สมเถา สุจริตกุล กล่าวว่า "สมาชิกวงสยามซินโฟนิเอตต้าได้รับการฝึกสอนโดยใช้หลักการสอนซึ่งออกแบบเฉพาะสำหรับนักดนตรีเยาวชนเพื่อศึกษาดนตรีอมตะ ฝึกซ้อมและแสดงฝีมือโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้นักดนตรีรุ่นเยาว์ผู้มีความสามารถพิเศษทั่วประเทศได้พัฒนาทักษะโดยไม่คำนึงถึงภูมิหลังหรือสถานภาพทางการเงิน"
ภารกิจที่ยากยิ่งของมูลนิธิฯ ในปัจจุบันคือการหาทุนสนับสนุน ค่าใช้จ่ายสำหรับนักดนตรีรุ่นเยาว์เดินทางไปบรรเลงทัวร์ต่างประเทศอย่างประหยัดที่สุดอยู่ที่ 150,000 บาทโดยประมาณต่อคน โดยรวมค่าโดยสารเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหาร ยานพาหนะ ฯลฯ นายสมเถา ซึ่งเป็นผู้อำนวยการ ได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้เด็กทุกคนได้ไป โดยขอความร่วมมือจากโซเชี่ยลมีเดียและมูลนิธิอเมริกันเพื่อหาทุนจากกลุ่มคนไทยและอเมริกัน
การที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งมายังมูลนิธิมหาอุปรากรกรุงเทพว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีบัญชาให้ส่งเรื่องให้กระทรวงวัฒนธรรมพิจารณาสนับสนุน ให้ความหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนในระดับรัฐบาล
ในขณะเดียวกัน โอเปร่าสยามยังจัดการแสดงเพื่อหารายได้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางอีกหลายรายการ ล่าสุดที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 15 มีนาคมนี้ได้แก่การแสดงคอนเสิร์ตที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นำเสนอดนตรีจากภาพยนตร์ยอดนิยม "สตาร์ วอร์ส" ชุดใหญ่ 9 เพลง จากภาพยนตร์ทั้ง 9 ภาค เป็นครั้งแรกในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ บรรเลงโดยสยาม ซินโฟนิเอตต้า ออร์เคสตร้าเยาวชนไทย
คีตกวีซึ่งมาร่วมในพิธีมอบรางวัล "ประสิทธิภาพด้านวัฒนธรรมยุโรป" โดยสร้างสะพานเชื่อมโยงวัฒนธรรมตะวันออกกับตะวันตกให้ผู้รับซึ่งเป็นคนไทยคนแรกเมื่อไม่นานมานี้กล่าวว่า "การที่ได้เห็นเด็กๆ ในหอแสดงที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก เห็นผู้ชมจำนวนมากลุกขึ้นยืนปรบมือให้เกียรติ และความมั่นใจอย่างมั่นคงของเยาวชนรุ่นใหม่ ทำให้การดิ้นรนครั้งนี้คุ้มค่าที่สุด"
อนึ่ง ผลงานภายใต้โครงการ "48 คงอยู่คู่ฟ้า" ซึ่งคุณพลอยไพลิน เจนเซ่น กรุณารับตำแหน่งผู้อำนวยการผลิต จะนำเพลงพระราชนิพนธ์ไปสู่ผู้รักดนตรีทั่วโลกเพื่อเผยแพร่พระปรีชาสามารถอันเลิศล้ำของเอกอัครศิลปินแห่งสยามประเทศ