L&E เชื่อผลงานปี 61 ฟอร์มสวย ปักธงรายได้โต 20% ตุน Backlog กว่า 1,200 ลบ. บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลหุ้นละ 0.12 บาท เอาใจผู้ถือหุ้น

ศุกร์ ๐๙ มีนาคม ๒๐๑๘ ๑๑:๐๔
L&E ผู้นำงานโครงการและอุปกรณ์แสงสว่าง มั่นใจผลงานปี 61 โตกว่าปีที่แล้ว จากปัจจุบัน ตุน Backlog กว่า 1.2 พันลบ. เตรียมทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้ แถมเตรียมเข้าประมูลงานใหม่จากภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง เหตุงานก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นและภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว "ปกรณ์ บริมาสพร" ซีอีโอ ย้ำ!! เร่งสร้างผลงานในประเทศเต็มกำลัง พร้อมรุกตลาดต่างประเทศ เพิ่มโอกาสการเติบโต หลังจัดตั้งบริษัทย่อยในเวียดนาม สำนักงานตัวแทนในมาเลเซีย และอินโดนีเซียแล้วเสร็จ ชี้ปัจจัยหนุนต่อเนื่อง จากความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ LED ทดแทนผลิตภัณฑ์เดิมเพื่อประหยัดพลังงาน เพิ่มสูงขึ้น เตรียมส่งโคม signature series เจาะตลาดพรีเมี่ยม ตั้งเป้ารายได้ปี 61 เติบโต 20% จากผลงานปี 60 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 2,553 ลบ. กำไรสุทธิอยู่ที่ 61.1 ลบ. ลดลงจากปีก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจขยายตัวในอัตราที่ต่ำ การแข่งขันสูง และงานโครงการล่าช้ากว่ากำหนด บอร์ดเอาใจผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายปันผล 0.12 บาท/หุ้น กำหนดวันจ่ายเงินปันผลวันที่ 24 พ.ค. 2561 ขึ้น XD 3 พ.ค. นี้

นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยถึง แผนงานในปี 2561 มีแนวโน้มเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา จากการขยายตัวของเศรษฐกิจ งานก่อสร้าง และอุตสากรรมต่างๆ เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น จึงเชื่อว่าจะมีงานโครงการออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) ที่รอรับรู้เป็นรายได้อยู่กว่า 1,200 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ทั้งหมด และเป็นงานโครงการมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ที่ถูกเลื่อนมาจากไตรมาส 4/2560 จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงไตรมาส1 และ ไตรมาส 2 ปีนี้ พร้อมทั้ง เปิดเกมรุกในฐานะผู้นำในธุรกิจแสงสว่าง เตรียมเข้าประมูลงานโครงการใหม่จากภาครัฐบาล และเอกชนอย่างต่อเนื่อง วางเป้าหมายรายได้จากการขายและให้บริการปี 2561 เติบโตที่ระดับ 20% จากปีก่อน

นอกจากนี้ แผนการรุกตลาดต่างประเทศมีทิศทางที่ดีเช่นกัน หลังจากในปีที่ผ่านมาได้จัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศเวียดนาม และจัดตั้งสำนักงานตัวแทนในประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย เสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นฐานการทำตลาด และรองรับความต้องการของลูกค้าได้ทันท่วงที ขณะที่ประเทศดังกล่าวที่เราเข้าไปทำตลาดอย่างจริงจัง มีความต้องการใช้อุปกรณ์แสงสว่างของบริษัทฯ ในงานโครงการต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้น จึงตั้งเป้าปีนี้มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศราว 9% จากปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 6% ของรายได้จากการขายและบริการบริษัทฯ

อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้หลอดไฟฟ้า และอุปกรณ์ส่องสว่าง LED ในประเทศไทยขยายตัวมากขึ้น และผลักดันให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ LED แทนการใช้หลอดไฟส่องสว่างแบบเดิมมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน เพื่อประหยัดพลังงานและการใช้งานที่คงทน เป็นโอกาสของ L&E ในการรุกตลาดดังกล่าว มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างใหม่ๆ จากศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างของบริษัทฯ (Lighting Innovation Center) ที่เริ่มสามารถทำงานได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเจาะลูกค้าในตลาดบน ลดความเสี่ยงในการแข่งขันทางด้านราคา และเตรียมออกผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างชุดใหม่ที่เรียกว่า Signature Collection เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี สนับสนุนการเติบโตของยอดขายหลอดไฟ LED ยิ่งขึ้นได้

นายปกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาเรามุ่งเน้นการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้าอย่างดีที่สุด ทำให้ L&E ได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ เป็นหนึ่งในผู้นำงานโครงการแสงสว่างในประเทศไทยมาโดยตลอด แม้ในปีที่ผ่านมาจะมีการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ แต่เราก็สามารถทำผลงาน และบริหารจัดการภายในอย่างเต็มที่ เพื่อเตรียมพร้อมรับงานในปี 2561 ที่เรามองว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาได้ ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ รอบคอบ และมีความโปร่งใส ตลอดจน จะบริหารงานตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เห็นถึงความสำคัญของการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น จึงได้เข้าร่วม ใน "โครงการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต" เพื่อหวังจะช่วยลดปัญหาเรื่องคอร์รัปชั่น นอกจากนี้ บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะใส่ใจในชุมชน สังคมรอบข้าง และตระหนักในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อการเจริญเติบโตของบริษัทฯ ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวดปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 2,553 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 13% เป็นผลจากงานโครงการได้ปรับตัวลดลง 15% ส่วนงานค้าส่ง/ค้าปลีกลดลง 3% งานส่งออกลดลง 32% สาเหตุหลักเพราะสภาพการแข่งขันมีความเข้มข้นขึ้น ทำให้บริษัทฯ ต้องเสนอสินค้าที่มีราคาต่อหน่วยต่ำลง เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ รวมทั้ง บริษัทฯ มีงาน turnkey ที่ต้องรวมสินค้าและค่าติดตั้งตลอดจนต้องรับชำระเงินเป็นงวดๆ เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้สินค้าที่อยู่ระหว่างการติดตั้งต้องถูกเลื่อนไปรับรู้รายได้ในปี 2561

สำหรับงานโครงการซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ ราว 67% ของรายได้จากการขายและบริการทั้งหมด ปรับตัวลดลง 15% เป็น 1,715 ล้านบาท เป็นผลจากงาน turnkey จำนวน 31 ล้านบาท ที่ต้องถูกเลื่อนไปรับรู้รายได้ ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2561 และมีงานโครงการมูลค่าประมาณ 180 ล้านบาท ต้องเลื่อนส่งมอบงานไปเป็นไตรมาสที่ 1 และ 2 ของปี 2561 ส่วนงานขายส่ง/ขายปลีกลดลง 3% เป็น 698 ล้านบาท เป็นผลจากราคาสินค้า LED ที่ปรับตัวลดลงและกำลังซื้อของผู้บริโภคได้อ่อนตัวลง สำหรับงานส่งออกได้ลดลง 32% เป็น 139 ล้านบาท เป็นผลจากในปี 2559 บริษัทฯ ได้ขายโคมไฟ LED มูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท เพื่อใช้ติดตั้งในซุปเปอร์สโตร์รายหนึ่งในประเทศออสเตรเลียแทนของเดิม เพื่อประหยัดพลังงาน แต่ซุปเปอร์สโตร์ดังกล่าวได้ชะลอการลงทุนในปี 2560 รวมทั้ง การขยายงาน ในประเทศเวียดนาม ประเทศมาเลเซีย และประเทศอินโดนีเชีย ยังทำได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากความล่าช้าในการจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศเวียดนาม รวมถึง ความล่าช้าในการจัดตั้งสำนักงานตัวแทนในประเทศมาเลเซีย และประเทศอินโดนีเชีย

กำไรสำหรับงวดปี 2560 อยู่ที่ 61.1 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 13 ล้านบาท หรือลดลง 18% เป็นผลจากกำไรเบื้องต้นรวมรายได้อื่นลดลง 39.2 ล้านบาท หรือลดลง 5% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวมดอกเบี้ยจ่ายลดลง 26.0 ล้านบาท หรือลดลง 3% ซึ่งสาเหตุใหญ่เป็นผลจากค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขาย และค่าใช้จ่ายอื่นส่วนใหญ่ได้ปรับตัวลดลง รวมทั้ง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมได้ปรับตัวลดลง แต่มีภาษีเงินลดลงเพียง 0.2 ล้านบาท เพราะในไตรมาสนี้บริษัทย่อยแห่งหนึ่งซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนมียอดขายของสินค้าจำนวนหนึ่งที่ไม่อยู่ในข่ายได้รับยกเว้นภาษีเงินได้

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายปันผลเป็นเงินสด งวดผลการดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2560 ถึง วันที่ 31 ธ.ค. 2560 หุ้นละ 0.12 บาท โดยกำหนดวันจ่ายเงินปันผลวันที่ 24 พ.ค. 2561 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 3 พ.ค. 2561

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO