ทั้งนี้ การซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ ดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อสถานีบริการเอ็นจีวีในพื้นที่ภาคเหนือรวม 30 แห่ง ใน 13 จังหวัด (ตั้งแต่จังหวัดนครสวรรค์ขึ้นไป) ซึ่ง ปตท. ได้เตรียมความพร้อมและวางแผนขนส่งก๊าซฯ จากส่วนกลางมาชดเชยให้ในพื้นที่ ทำให้มีปริมาณก๊าซเอ็นจีวีรองรับบริการทั้งสิ้น 188 ตันต่อวัน หรือคิดเป็นร้อยละ 70 ของปริมาณการใช้ก๊าซเอ็นจีวีปกติ ที่ 267 ตันต่อวัน โดยคณะผู้บริหาร ปตท. จะมีการประชุมติดตามสถานการณ์การบริหารจัดการก๊าซเอ็นจีวีอย่างใกล้ชิด และความก้าวหน้าการซ่อมบำรุงของผู้ผลิตก๊าซฯ เป็นรายวันผ่าน "ศูนย์ติดตามสถานการณ์ผู้ผลิตแหล่งสิริกิติ์หยุดซ่อมบำรุง ปี 2561" ตั้งแต่วันนี้ จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นายศักดิ์เฉลิม กล่าวเสริมว่า "ปตท. ตระหนักดีถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้ใช้เอ็นจีวี จึงได้ประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าให้ลูกค้าเอ็นจีวีทั้งในและนอกพื้นที่ได้รับทราบ รวมถึงได้ส่งหนังสือไปยังพลังงานจังหวัด และบริษัทผู้ประกอบการรถขนส่ง เพื่อแจ้งถึงความไม่สะดวกในการให้บริการก๊าซเอ็นจีวีจากเหตุดังกล่าว และขอความร่วมมือในการเตรียมแผนเชื้อเพลิงล่วงหน้า พร้อมกันนี้ ใคร่ขอความร่วมมือผู้ใช้รถเชื้อเพลิง 2 ระบบ คือน้ำมันและก๊าซเอ็นจีวี ที่จะมีการเดินทางไปยังภาคเหนือในช่วงเวลาดังกล่าว โปรดเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทดแทน โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก PTT Contact Center 1365 ตลอด 24 ชั่วโมง"