ในพิธีมอบรางวัล มร. เคน หู รักษาการตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย กล่าวว่า "ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา เราได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรหลายท่านเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี 3G, 4G และจนถึง 5G ในปัจจุบัน รวมถึงเทคโนโลยีไอซีทีอื่น ๆ ให้มีความก้าวหน้า เพื่อให้ผู้คนสามารถเชื่อมโยงสื่อสารถึงกันได้มากขึ้นผ่านบริการที่ดีขึ้น จนถึงตอนนี้ หัวเว่ยได้เชื่อมโยงการสื่อสารของประชากรกว่าหนึ่งในสามของโลก ซึ่งผมรู้สึกภาคภูมิใจในความสำเร็จของเรา ทว่าอุตสาหกรรมโมบายก็ยังจะพัฒนาต่อไป และจะกลายเป็นรากฐานสำคัญของโลกอัจฉริยะที่ทุกอย่างเชื่อมถึงกันในอีกไม่ช้า เราจึงมีงานสำคัญที่ต้องทำอีกมาก"
รางวัลจีเอสเอ็มเอ ด้านการสนับสนุนอุตสาหกรรมโมบายยอดเยี่ยม (GSMA's Award for Outstanding Contribution to the Mobile Industry) จะมอบให้กับบุคคล บริษัท และองค์กรที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมไอซีทีและการสื่อสารเคลื่อนที่ให้เจริญก้าวหน้า นอกเหนือจากการส่งเสริมด้านเทคโนโลยีแล้ว หัวเว่ยยังเป็นที่ยอมรับในฐานะองค์กรที่มีความมุ่งมั่นทุ่มเทในการประสานความร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม โดยหัวเว่ยเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการกำหนดมาตรฐาน ตลอดจนองค์กรต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม รวมถึงชุมชนโอเพ่นซอร์สกว่า 360 แห่ง และมีบทบาทสำคัญในการสร้างเสริมระบบนิเวศดิจิทัลให้กว้างไกลยิ่งขึ้น
"ในนามของสมาคมจีเอสเอ็มเอ ผมขอชื่นชมในความมุ่งมั่นทุ่มเทของหัวเว่ยที่ได้มีส่วนผลักดันส่งเสริมให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตรุดหน้า" มร. สุนิล ภารตี มิททัล ประธานสมาคมจีเอสเอ็ม ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทภารตี เอ็นเตอร์ไพรส์ กล่าว "หัวเว่ยสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์โครงข่ายสื่อสารเคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดของโลกได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 30 ปีเท่านั้น ผลงานของหัวเว่ยที่ช่วยสร้างมาตรฐานระดับโลก รวมทั้งการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ และความมุ่งมั่นตั้งใจในการช่วยให้ลูกค้าและพันธมิตรประสบความสำเร็จในการดำเนินงานต่าง ๆ จะมีอิทธิพลสำคัญยิ่งต่ออนาคตของอุตสาหกรรมนี้ในระยะยาว"
นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทเมื่อปี 2530 หัวเว่ยได้พัฒนาและขยายธุรกิจจากผู้แทนจำหน่ายอุปกรณ์ชุมสายโทรศัพท์จนกลายมาเป็นผู้นำระดับโลกด้านการให้บริการโซลูชั่นโทรคมนาคมและเครือข่ายสำหรับองค์กร รวมถึงอุปกรณ์สำหรับการใช้งานส่วนบุคคล
นอกจากนี้ หัวเว่ยยังให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนามาโดยตลอด โดยเม็ดเงินลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาทั้งหมดตั้งแต่ปี 2550-2559 เป็นจำนวนมากกว่า 4.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปี 2559 เพียงปีเดียว หัวเว่ยลงทุนไปถึง 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลยุคใหม่ด้วยการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านคลาวด์ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยี 5G โดยในแต่ละปี หัวเว่ยยังคงลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องคิดเป็นร้อยละ 10-15 ของรายได้ต่อปี
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานรางวัล 2018 GLOMO สามารถดูได้ที่https://www.globalmobileawards.com/