นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co., Ltd.) กล่าวว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้าไปแทรกซึมอยู่ในทุกอุตสาหกรรมและชีวิตประจำวันของมนุษย์ นอกจากนี้ทิสโก้ยังคงมองว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังเป็นกลุ่มที่น่าสนใจลงทุน เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2561 ที่ผ่านมา บลจ.ทิสโก้บริหาร กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส เทคโนโลยี ทริกเกอร์ 5M#1 (TTECH5M1) กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่อยู่ในดัชนี S&P 500 ผ่านกองทุนอีทีเอฟ Technology Select Sector SPDR Fund (กองทุนหลัก) ถึงเป้าหมายเลิกโครงการที่ 5% มีมูลค่า NAV เท่ากับ 10.58 บาทต่อหน่วย ในระยะเวลาเพียง 24 วัน นับจากวันที่14 ก.พ. 2561 ซึ่งเป็นวันจัดตั้งกองทุน โดยกองทุนที่ถึงเป้าหมายในครั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก บลจ.ทิสโก้จับจังหวะในช่วงที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงในระยะสั้น ประกอบกับเห็นถึงศักยภาพการเติบโตที่มีอยู่มากในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี จึงช่วยให้นักลงทุนได้รับโอกาสที่ดีจากการลงทุนในครั้งนี้
"กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส เทคโนโลยี ทริกเกอร์ 5M#1 เป็นทริกเกอร์ฟันด์ที่บลจ.ทิสโก้บริหารให้ถึงเป้าหมายเป็นกองทุนที่ 3 ของปี 2561 ความสำเร็จในครั้งนี้ตอกย้ำความชำนาญด้านการบริหารทริกเกอร์ฟันด์ของ บลจ. ทิสโก้ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ บลจ.ทิสโก้มองว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังคงเป็นเมกะเทรนด์ของการลงทุนต่อไป เนื่องจาก เทคโนโลยีของโลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผู้ประกอบการจึงต้องลงทุนทั้งซอฟแวร์ ฮาร์ดแวร์และต้องการองค์ความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอเพื่อปรับธุรกิจให้ทันกับเทรนด์ที่เปลี่ยนไป ด้านภาคการบริโภคของประชาชนก็พบว่าเทคโนโลยีเข้าไปแทรกซึมอยู่กับชีวิตประจำวันในทุกด้าน ดังนั้น หุ้นกลุ่มนี้จึงมีโอกาสเติบโตอีกมาก"นายสาห์รัชกล่าว
ทั้งนี้ การลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจำเป็นต้องคัดเลือกโมเดลธุรกิจที่ดีรวมไปถึงการวิเคราะห์มูลค่าหุ้น ที่เหมาะสม อีกทั้งหุ้นที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศไทยยังมีไม่มากนัก ผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทั่วโลก บลจ.ทิสโก้มีกองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล เทคโนโลยี อิควิตี้ (TISCO Global Technology Equity Fund: TGTECH) (ความเสี่ยงระดับ 7 ) กองทุนหุ้นต่างประเทศ มุ่งลงทุนเฉพาะเจาะจงในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี (Technology) กระจายการลงทุนในภูมิภาคต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก ผ่านกองทุนรวมต่างประเทศและ หรือกองทุนรวมอีทีเอฟต่างประเทศอย่างน้อย 2 กองทุนโดดเด่นตรงที่ผู้จัดการกองทุนสามารถเลือกกองทุนที่มีผลการดำเนินงานที่ดี ปรับสัดส่วนและกระจายการลงทุนไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ไว้สำหรับเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนด้วย และเนื่องจากกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน กองทุนจึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน
นายสาห์รัชกล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงวันที่ 13 มีนาคม 2561 บลจ.ทิสโก้ออกทริกเกอร์ฟันด์ที่ลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศทั้งหมด 122 กองทุน แบ่งเป็นกองทุนที่อยู่ในระหว่างลงทุน 1 กองทุน กองทุนที่ถึงเป้าหมายและเลิกโครงการแล้ว 96 กองทุนในจำนวนนี้ถึงเป้าหมายในกำหนดเวลาการลงทุน 69 กองทุนและถึงเป้าหมายนอกกำหนดเวลาการลงทุน27 กองทุน ส่วนกองทุนที่ไม่ถึงเป้าหมายในกำหนดเวลาการลงทุน 25 กองทุนนั้น ยังอยู่ในระหว่างลงทุนเกินกว่ากำหนดเวลาการลงทุน 5 กองทุน ไม่ถึงเป้าหมายและเลิกกองทุนแล้ว 20กองทุน ซึ่งผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4