นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยได้รุกตลาดบริการไพรเวทแบงค์ในกลุ่มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงชาวจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีชาวจีนโพ้นทะเลอาศัยอยู่มากที่สุด และได้เข้ามาทำธุรกิจสร้างฐานะจนอยู่ในระดับเศรษฐีจำนวนมาก รวมทั้งยังมีชาวจีนรุ่นใหม่เข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานการลงทุนและผลิตสินค้าจำนวนมาก ซึ่งธนาคารเห็นโอกาสที่ดีที่จะรุกตลาดลูกค้าจีนสินทรัพย์สูงเพื่อให้บริการไพรเวทแบงกิ้งอย่างครบวงจรในการเป็นที่ปรึกษาการเงินและการลงทุน ซึ่งถือเป็น International Comprehensive Wealth Management Services แห่งแรกของประเทศไทยที่มีมาตรฐานการให้บริการระดับสากล โดยมี Lombard Odier พันธมิตรผู้ให้บริการไพรเวทแบงกิ้งที่เก่าแก่และให้บริการลูกค้าสินทรัพย์สูงทั่วโลกมาแล้วถึง 222 ปี ร่วมกันส่งมอบบริการ
ทั้งนี้ บริการไพรเวทแบงกิ้งสำหรับลูกค้าจีนสินทรัพย์สูงจะให้บริการครอบคลุม 3 ด้าน คือ บริการเป็นที่ปรึกษาด้านบริหารทรัพย์สินครอบครัว (Family Wealth Planning Service) บริการที่ปรึกษาด้านการลงทุนทั้งในและนอกตลาดทุน (Investment Advisory) และ เอกสิทธิ์ในการใช้ชีวิต (Privileges) ซึ่งลูกค้าจะได้รับโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลระดับโลก สร้างเครือข่ายธุรกิจ และร่วมกิจกรรมเพื่อสัมผัสประสบการณ์พิเศษ (Money can't Buy Experiences) ผ่านทางทีมงานที่เชี่ยวชาญการลงทุนที่เข้าใจความต้องการของชาวจีน และสามารถสื่อสารภาษาจีนได้ (Chinese Speaking Private Banker) เพื่อให้บริการลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ โดยธนาคารกสิกรไทยมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้ให้บริการไพรเวทแบงค์ที่ดีที่สุดสำหรับชาวจีนในประเทศไทย (The Best Private Banker for Chinese in Thailand)
ปัจจุบันมีชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนที่อาศัยในประเทศไทยประมาณ 10 ล้านคน ทางธนาคารได้ให้บริการไพรเวทแบงกิ้งกับลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงชาวจีนและลูกค้าที่สื่อสารด้วยภาษาจีนเป็นหลักในเมืองไทย ประมาณ 90 คน มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ประมาณ 4,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีกลุ่มลูกค้าชาวจีนอาศัยอยู่ในไทยที่ใช้บริการ เดอะ วิสดอม ธนาคารกสิกรไทย ประมาณ 1,400 คน ซึ่งหากเพิ่มจำนวนลูกค้าไพรเวทฯ จากลูกค้ากลุ่มนี้ได้มากขึ้น คาดว่าภายในปีนี้จะมี AUM ของกลุ่มลูกค้าจีน รวมประมาณ 1.25 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ภาพรวมธุรกิจบริการไพรเวทแบงค์ของธนาคารกสิกรไทย ในปี 2560 ที่ผ่านมา มีจำนวนลูกค้าทั้งหมดประมาณ 10,500 คน มี AUM ถึง 750,000 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาดประมาณ 34% ของกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง (High Net Worth Individual: HNWIs) ในประเทศไทย
นายบัณฑูร กล่าวว่า การผลักดันโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กับ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" สามารถสร้างโอกาสให้กับความร่วมมือในด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทยและจีน ซึ่งจะช่วยดึงดูดให้นักธุรกิจจีนจำนวนมากเข้ามาลงทุนตั้งกิจการในประเทศไทย อย่างไรก็ตามชาวจีนและนักลงทุนจีนในประเทศไทยจะเน้นให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการธุรกิจให้เจริญรุ่งเรืองเป็นหลัก จนบางครั้งไม่มีเวลาหรือไม่มีความชำนาญในการบริหารสินทรัพย์ส่วนบุคคล และการวางแผนจัดการสินทรัพย์ครอบครัว ทำให้เสียโอกาสสร้างผลตอบแทนและความมั่นคงในสินทรัพย์ส่วนนี้ ดังนั้นความร่วมมือให้บริการไพรเวทแบงกิ้งสำหรับลูกค้าจีนสินทรัพย์สูงของธนาคารกสิกรไทยและพันธมิตรสำคัญอย่าง Lombard Odier จะช่วยเติมเต็มธุรกิจและชีวิตส่วนตัวของลูกค้ามากยิ่งขึ้น