ก้าวสู่สังคมไร้เงินสด ระบบที่สามารถทำงานร่วมกันและมีการเชื่อมต่ออย่างราบรื่นเป็นส่วนสำคัญ

ศุกร์ ๑๖ มีนาคม ๒๐๑๘ ๐๙:๔๗
โดย……โดนัลด์ ออง ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ มาสเตอร์การ์ด

เทคโนโลยีทางการเงินหรือฟินเทค ทำให้การชำระเงินแบบไร้เงินสดเติบโตขึ้นอย่างมากมาย และรวดเร็วกว่าที่เคยเป็นมา การใช้บัตรเครดิตแบบไร้สัมผัส กระเป๋าเงินดิจิทัล เทคโนโลยีที่สวมใส่ได้ และการพิสูจน์ตัวตน เป็นสิ่งที่แพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว จนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเรา

ประเทศไทยกำลังพัฒนาตามแนวนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยมุ่งให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง (middle-income trap) และเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแบบใช้ความรู้เป็นพื้นฐาน โดยมีแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) รวมถึงแนวคิดริเริ่มอื่นๆ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์นี้เป็นตัวกำหนดกรอบในการพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และสังคมไร้เงินสด เนื่องจากในประเทศไทย ทั้งผู้บริโภค กิจการร้านค้าต่างๆ ตลอดจนหน่วยงานรัฐบาลต่างจะได้รับประโยชน์มากมายจากระบบชำระเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น

มาสเตอร์การ์ด ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการจ่ายเงินระดับโลก เป็นหนึ่งในผู้ที่มีบทบาทขับเคลื่อนสังคมไร้เงินสดในประเทศไทย โดยเมื่อปีที่ผ่านมา (2560) มาสเตอร์การ์ดได้ร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย พันธมิตรในธุรกิจต่างๆ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อเปิดตัว QR Code มาตรฐาน ซึ่งเป็นมาตรฐานแพลตฟอร์มแบบเปิดและรองรับการทำงานร่วมกันระดับโลกเพื่อให้ร้านค้าและผู้บริโภคชาวไทยสามารถซื้อขายและจับจ่ายใช้สอยในระบบอีเปย์เมนท์ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย นอกจากนี้ยังเปิดตัว "พร้อมการ์ด เดบิต มาสเตอร์การ์ด" (PromptCard Debit Mastercard) ซึ่งเป็นบัตรเดบิตเพื่อการทำธุรกรรมและซื้อสินค้า (co-badged payment) ครั้งแรกในประเทศไทยภายใต้แบรนด์พร้อมการ์ด (PromptCard) เพื่อสนับสนุนนโยบายการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐบาลในปีเดียวกันอีกด้วย

จะเห็นว่า ปัจจุบัน เราได้สัมผัสกับนิยามใหม่ของการชำระเงินที่ให้ความสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ระบบนี้ช่วยสร้างสังคมสมัยใหม่และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ประโยชน์จากระบบมากยิ่งขึ้น การลงทุนที่สำคัญๆ ในด้านบริการชำระเงินจากสถาบันการเงินและกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพทั้งหลายก่อให้เกิดโซลูชั่นมากมาย ตั้งแต่บัตรเอทีเอ็มไร้สัมผัสที่ช่วยให้คุณถอนเงินสดจากตู้ได้ด้วยสมาร์ตโฟน ไปจนถึงการใช้รหัส QR เพื่อการชำระเงิน และการใช้หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์เพื่อการให้บริการทางการเงิน

มุ่งสู่สังคมไร้เงินสด

แม้ว่าโครงสร้างพื้นฐานของระบบการชำระเงินที่ดีจะเป็นหัวใจสำคัญของการชำระเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่ความสามารถในการทำงานร่วมกันและข้ามระบบ (Interoperability) ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเพราะจะช่วยให้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ง่ายขึ้น ดังนั้น ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนควรร่วมมือกันพัฒนาระบบที่สามารถทำงานร่วมกันได้ในวงกว้าง เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อที่ดีขึ้น และกระตุ้นให้ผู้ใช้อยากใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น ในปีที่ผ่านมา ที่ประเทศสิงคโปร์ กรมการขนส่งทางบกและทรานสิตลิงก์ (สิงคโปร์) ได้ร่วมกันเปิดตัวระบบ ABT หรือ Account Based Ticketing สำหรับการเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงทดลองใช้ ระบบนี้จะช่วยให้ผู้โดยสารสามารถสแกนบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ดเพื่อชำระค่ารถไฟหรือรถโดยสารสาธารณะได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้บัตรโดยสารแบบเติมเงิน เมื่อเข้าที่แล้ว ระบบนี้จะสามารถปรับปรุงกระบวนการออกตั๋วโดยสารสาธารณะให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ประหยัดเวลา เพิ่มความคล่องตัวและลดความหนาแน่นของผู้โดยสารที่สถานีรถโดยสารและ MRT เพราะผู้โดยสารไม่จำเป็นต้องหยุดชะงักอยู่ที่ประตูทางเข้าเพราะมีเงินในบัตรโดยสารไม่พอ หรือต้องเติมเงินอีกต่อไป

สุดท้ายแล้ว เป้าหมายคือ การสร้างระบบเปิดและทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้ผู้โดยสาร ทั้งที่เป็นคนในประเทศหรือแม้แต่นักท่องเที่ยว ให้สามารถใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตเพื่อการเดินทางทั่วสิงคโปร์ได้อย่างคล่องตัว เหมือนกับระบบขนส่งสาธารณะในลอนดอนที่นำระบบการชำระเงินแบบไร้สัมผัสมาใช้อย่างประสบความสำเร็จ แนวคิดนี้จะสามารถเร่งผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภคให้หันมาใช้การชำระเงินแบบไร้สัมผัส ไม่ว่าจะเป็นที่ ร้านค้า ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ไปจนถึงสถานบันเทิงต่างๆ ความคุ้นชินในการใช้งานก่อให้เกิดความเชื่อใจ และวางใจในระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัสมากยิ่งขึ้นว่าจะสามารถมอบความสะดวกสบาย และความคล่องตัวในแบบที่สังคมคนเมืองอัจฉริยะต้องการ

อีกตัวอย่างที่น่าสนใจ คือกระเป๋าเงินดิจิทัล เมื่อดูจากผลสำรวจการจับจ่ายใช้สอยผ่านระบบมือถือล่าสุดของมาสเตอร์การ์ด เราพบว่า ผู้บริโภคมีการจับจ่ายใช้สอยผ่านระบบกระเป๋าเงินดิจิทัลเพิ่มมากขึ้นถึง 5 เท่าในระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา กระเป๋าเงินดิจิทัลบางประเภทเป็นแบบที่สามารถจ่ายได้ทั้งผ่านระบบออนไลน์และผ่านแอพพลิเคชั่นโดยไม่ต้องสนใจว่าจะใช้แพลตฟอร์มของบัตรใด ความสะดวกจากอินเตอร์เฟซชำระเงินที่ทำงานร่วมกันได้ในลักษณะนี้ทำให้ผู้ใช้มีประสบการณ์การการจับจ่ายใช้งานที่ปลอดภัย คล่องตัว ซึ่งจะยิ่งขับเคลื่อนให้เกิดการยอมรับการใช้งานมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของผู้ค้านั้น รัฐบาลประเทศสิงคโปร์เปิดตัวโครงการ "SME Go Digital" เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ได้เริ่มเส้นทางสู่ความเป็นดิจิทัล และกระตุ้นให้ธุรกิจต่างๆ หันมาใช้เทคโนโลยีไร้เงินสด โปรแกรมนี้เป็นสิ่งดีที่จะช่วยให้กลุ่ม SME ได้พัฒนาความสามารถในเชิงดิจิทัลให้แข็งแกร่งขึ้น และเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น

มุมมองที่กว้างขึ้น

ความก้าวหน้าของระบบชำระเงินแบบไร้เงินสดในสิงคโปร์ในวันนี้ อาจไม่เหมือนกับที่อื่นๆ ในภูมิภาค แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ ประเทศต่างๆ และประชาชนในประเทศนั้นๆ เริ่มยอมรับและเห็นพ้องต้องกันแล้วว่า สังคมไร้เงินสดจะเป็นสังคมแห่งอนาคตอย่างแท้จริง

ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกช่วยให้เราเห็นภาพและเข้าใจอย่างชัดเจนว่า สังคมแบบไร้เงินสดจะส่งผลอย่างไรบ้างต่อระบบเศรษฐกิจและต่อประเทศต่างๆ สำหรับประเทศที่ระบบเศรษฐกิจพัฒนาแล้วอย่างสิงคโปร์และออสเตรเลีย สังคมไร้เงินสดจะช่วยให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยที่คล่องตัว สำหรับกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างจีน อินเดีย และอินโดนีเซียนั้น การใช้ระบบการชำระเงินแบบดิจิทัลจะช่วยเปิดโอกาสให้กับชุมชนที่ด้อยโอกาสได้มีโอกาสมีความก้าวหน้าทางการเงิน

เป้าหมายคือ การสร้างโลกของการจับจ่ายใช้สอยแบบไร้เงินสดที่ปลอดภัยและสามารถเชื่อมต่อกันได้โดยไม่มีข้อจำกัดด้านประเทศและภาษา โดยมีพื้นฐานอยู่บนระบบเปิดและเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ซึ่งมาสเตอร์การ์ดมั่นใจว่า การไปสู่จุดมุ่งหมายนั้นอาจจะค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็เป็นก้าวที่มั่นคง และการไปถึงจุดหมายก็เป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น

ในช่วงสัปดาห์หน้า (19 - 20 มีค 2561) มาสเตอร์การ์ดยังเข้าร่วมในงาน Bangkok Fin Tech Fair 2018 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สถาบันการเงิน สมาคมธนาคารไทย สมาคมเทคโนโลยีด้านการเงิน บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายการชำระเงินระดับโลก หน่วยงานภาครัฐ ผู้แทนกลุ่ม SMEs ในระหว่างวันที่ 19 – 20 มีนาคม พ.ศ. 2561 ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย โดย

มาสเตอร์การ์ดจะจัดบูธในหัวข้อ 'มาสเตอร์การ์ดมีส่วนผลักดันเมืองอัจฉริยะอย่างไรบ้าง' ซึ่งจะชี้ให้เห็นรูปแบบความร่วมมือที่เคยเกิดขึ้นและเทคโนโลยีที่สามารถนำมาใช้ได้ในแนวทางหลักๆ คือ

การเดินทาง (Transit) – การจ่ายเงินระบบขนส่งมวลชนโดยไม่ใช้เงินสดและไม่มีข้อจำกัด ถึงแม้จะอยู่บนระบบที่แตกต่างกัน โดยจะให้ประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกและราบรื่น ทั้งผู้ที่อยู่อาศัยในเมืองและนักท่องเที่ยวจากต่างแดน

การจับจ่ายใช้สอยประจำวัน (Everyday) – QR code ที่ช่วยให้ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อสามารถจับจ่ายใช้สอยได้โดยต้องกังวลว่าอยู่บนระบบที่ต่างกัน

การค้า (Trade) – กรณีศึกษาการจ่ายเงินในกรณี B2B

ผู้ที่เยี่ยมชมบูธของมาสเตอร์การ์ดจะเห็นตัวอย่างของความร่วมมือที่ทำให้มาสเตอร์การ์ดช่วยให้เมืองต่างๆ เป็นเมืองอัจฉริยะได้อย่างไร

เกี่ยวกับมาสเตอร์การ์ด

MasterCard (NYSE: MA เว็บไซต์ www.Mastercard.com ) เป็นบริษัทเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมการชำระเงินระดับสากล บริษัทฯ ดำเนินงานผ่านเครือข่ายกระบวนการชำระเงินที่รวดเร็วที่สุดในโลก เชื่อมต่อผู้บริโภค สถาบันการเงิน ผู้ค้า หน่วยงานรัฐบาล และ ธุรกิจในกว่า 210 ประเทศ ผลิตภัณฑ์ และโซลูชั่นของมาสเตอร์การ์ดช่วยให้ธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การจับจ่ายซื้อสินค้า การท่องเที่ยว การดำเนินธุรกิจ และการจัดการทางการเงิน เป็นเรื่องง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อทุกคนที่เกี่ยวข้อง ติดตามความเคลื่อนไหวของบริษัทฯ ได้ทาง ทวิตเตอร์ที่ @MastercardNews ร่วมสนทนากับบริษัทฯ ผ่านทาง Beyond the Transaction Blog และ สมัครที่นี่ เพื่อติดตามข่าวสารล่าสุดผ่าน Engagement Bureau

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version