นายศุภจักร ไตรรัตโนภาส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิปปอน แพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NPP เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่16 มีนาคม 2561 ได้มีมติให้บริษัทฯเสนอหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 400 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท แบบเฉพาะเจาะจงแก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ให้แก่ Asia Alpha Equity Fund 1 ซึ่งเป็นกองทุนย่อยของ Asia Alpha Equity Master Fund ที่จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ โดยมี Banjaran Asset Management Pte. Ltd. เป็นผู้จัดการกองทุน ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.70 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 280 ล้านบาท
สำหรับกองทุนดังกล่าว มีนโยบายเน้นการลงทุนในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เกษตรกรรม เภสัชภัณฑ์ และอุตสาหกรรมการผลิตในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ และภายหลังการเสนอขายหุ้นต่อบุคคลในวงจำกัด Asia Alpha Equity Fund 1 จะถือหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 400 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 24.38 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
ส่วนเม็ดเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทฯจะนำไปใช้เพื่อขยายการลงทุนในธุรกิจอาหาร อาทิ สำหรับการเปิดสาขาร้านอาหาร ภายใต้รูปแบบ "ควิก เซอร์วิส เรสเตอรอง" ของ เอแอนด์ดับบลิว (A&W) ซึ่งเป็นบริการอาหารจานด่วน ให้ครบจำนวน 100 สาขา ภายในปี 2562 ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯมีร้านอาหารบริการด่วน A&W ทั้งสิ้น 33 สาขา และอยู่ระหว่างการเปิดเพิ่มอีก 67 สาขา ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 469 ล้านบาท
ในปี2561 บริษัทฯมีแผนขยายสาขา A&W เพิ่มอีกประมาณ 30 สาขา คิดเป็นเงินลงทุนประมาณ 210 ล้านบาท ซึ่งแหล่งเงินทุนมาจากการเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมในปี 2560 ที่ยังคงเหลืออยู่ 62.86 ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งมาจากเงินการเพิ่มทุนให้กับ Asia Alpha Equity Fund 1 ในครั้งนี้ ส่วนอีก 28 สาขา คาดว่าจะใช้เงินในการลงทุนอีกประมาณ 196 ล้านบาท คาดว่าใช้เงินทุนจากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ NPP-W3 ที่จะครบกำหนดในเดือนกันยายน 2561 และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินอีกบางส่วนหากเงินที่ได้จากการแปลงภาพวอแรนต์ไม่เพียงพอ
ประธานกรรมการบริหาร บมจ.นิปปอน แพ็ค (ประเทศไทย) (NPP) กล่าวเพิ่มว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทฯได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือกับ บริษัท เชลล์ แห่งประเทศไทย จำกัด (shell) ในการเปิดสาขา A&W ภายในสถานีบริการน้ำมันของเชลล์ ไม่น้อยกว่า 10 สาขาต่อปี จนถึงปี 2566 และยังมีการเจรจาในลักษณะการให้บริการในสถานีบริการน้ำมันอื่นๆ รวมถึงคอมมูนิตี้มอลล์ ต่างๆ เพื่อให้แผนการเปิดสาขาในปีนี้เป็นไปตามเป้าที่วาง
นอกจากนี้ในปี 2561-2564 บริษัทฯ ยังมีแผนขยายฐานการผลิตอาหารแช่แข็ง และอาหารพร้อมรับประทานโดยมีการดำเนินการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ และวัสดุอุปกรณ์ เพื่อใช้ในกระบวนการผลิต และการดำเนินการในห้องเย็นต่างๆ เพื่อเพิ่มกำลังผลิตขึ้นเป็น 400 ตันต่อเดือน จากเดิมที่ผลิตได้เพียง 300 ตันต่อเดือน โดยใช้งบลงทุนประมาณ 68.5 ล้านบาท ซึ่งกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นของอาหารแช่แข็ง และอาหารพร้อมทานนั้น เพื่อรองรับคำสั่งซื้อจากในประเทศ และต่างประเทศ