น.ส.ศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า"บลจ.กรุงศรี เล็งเห็นถึงศักยภาพที่แข็งแกร่ง และโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในหุ้นของภูมิภาคเอเชีย ซึ่งถือว่าเป็นภูมิภาคแห่งการเติบโต โดยปีที่ผ่านมา GDP ของเอเชียไม่รวมประเทศญี่ปุ่นเติบโต 5.2% ซึ่งสูงกว่าทุกภูมิภาค และยังมีแนวโน้มจะขยายตัวต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และมีการปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิของบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมและการบริโภค ถือเป็นจังหวะที่น่าลงทุน บริษัทจึงเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีเอเชียน อิควิตี้เฮดจ์เอฟเอ็กซ์-สะสมมูลค่า (KFHASIA-A) ซึ่งลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ Vontobel Fund - mtx Sustainable Asian Leaders (Ex Japan) ที่ได้รับ Morningstar Rating 5 ดาว ณ 31 ธ.ค. 60 (ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / การจัดอันดับดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของสมาคมจัดการลงทุนแต่อย่างใด)"
"กองทุนหลักมีสไตล์การลงทุนที่โดดเด่นและแตกต่าง เน้นสรรหาบริษัทที่เป็นผู้นำของอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพเหนือกว่าบนระดับราคาที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย และมีความสามารถในการทำกำไร รวมทั้งลงทุนในบริษัทที่ให้ความสำคัญด้านความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการเติบโตอย่างยั่งยืน กองทุนหลักมีการกระจายการลงทุนในหลายประเทศและหลายอุตสาหกรรม โดยมีสัดส่วนการลงทุนในประเทศจีนสูงสุด สำหรับการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่มไอทีและไฟแนนซ์มากกว่า 50% ของพอร์ตการลงทุน ทั้งนี้ กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นสามารถสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าดัชนีชี้วัดอย่างต่อเนื่อง โดยสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปีเฉลี่ยอยู่ที่ 17% ต่อปี ย้อนหลัง 5 ปีที่ 15% ต่อปี และผลตอบแทนเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 17% ต่อปี สูงกว่าดัชนีชี้วัดที่ 11% 8% และ 14% ตามลำดับ" (ข้อมูล : Vontobel Asset Management ณ 31 ธ.ค. 60. วันจัดตั้งกองทุน คือ 17 พ.ย. 51. Benchmark คือ MSCI AC Asia ex Japan TRN. / ผลการดำเนินงานที่แสดงเป็นผลการดำเนินงานของกองทุนหลักซึ่งไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต)
"บลจ.กรุงศรี มีมุมมองที่ดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพในการเติบโตด้วยปัจจัยขับเคลื่อนหลายประการ ทั้งด้านเศรษฐกิจที่มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกส่งผลให้การค้าของเอเชียกลับมาขยายตัว การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่ช่วยสนับสนุนให้เกิดโอกาสเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว กำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมและการบริโภค อีกทั้งระดับราคาหุ้นเอเชียที่ยังคงปรับตัวไม่สูงมากเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆและมีราคาถูกกว่าประเทศพัฒนาแล้วอย่างมาก ประกอบกับทิศทางการเติบโตที่สดใสทำให้เริ่มเห็นสัญญาณการเข้าลงทุนจากนักลงทุนทั่วโลกเพิ่มขึ้น มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามากขึ้นโดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเอเชียและทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมักมีการปรับตัวไปในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐไม่น่ากังวลมากนักในช่วงที่เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง จากปัจจัยต่างๆดังกล่าวถือเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดหุ้นเอเชียมีความน่าสนใจ"
"บลจ.กรุงศรี เชื่อมั่นว่ากองทุน KFHASIA-A จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการกระจายการลงทุนไปในตลาดที่มีศักยภาพเติบโต เพื่อแสวงหาผลตอบแทนรวมที่สูงขึ้นในระยะยาว" น.ส.ศิริพร กล่าว
นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี จำกัด โทร. 02-657-5757 หรือ เว็บไซต์ www.krungsriasset.com หรือ ติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
กองทุนเปิดกรุงศรีเอเชียนอิควิตี้เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ – สะสมมูลค่า จะนำเงินไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ Vontobel Fund - mtx Sustainable Asian Leaders (ex Japan) (Class I) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงสูงระดับ 6 มีนโยบายลงทุนใน หุ้นที่ออกโดยบริษัทที่ตั้งอยู่หรือประกอบกิจการในทวีปเอเชีย (ไม่รวมประเทศญี่ปุ่น) ดังนั้นกองทุนอาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และ/หรือการเมืองในประเทศซึ่งกองทุนหลักได้ลงทุน
กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน โดยปกติกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 90 % ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศกองทุนอาจจะลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (Non – investment grade) หรือตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated securities) โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
กองทุนจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ ขณะใดขณะหนึ่งโดยไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งอาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมฯ โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น