นายซาลมาน ซาดัต ประธานกรรมการและผู้จัดการใหญ่ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ประกาศวิสัยทัศน์ และยุทธศาสตร์องค์กรครั้งสำคัญวันนี้ว่า "บริษัทฯ พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างเข้มแข็งเต็มรูปแบบด้วย วิสัยทัศน์ "Smart Value for All" นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลง ซึ่งนำไปสู่เป้าหมายอย่างยั่งยืนด้วยการสร้างคุณค่าเหนือความคาดหมายให้กับทุกฝ่าย"
นายซาลมาน เปิดเผยว่า "บริษัทฯ ได้ทำการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายและการทำวิจัยการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค และนำมาพัฒนาในการปรับกลยุทธ์ และวิสัยทัศน์เพื่อการเติบโตของบริษัทฯ ในครั้งนี้ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคของดิจิทัลอย่างเต็มตัว ก้าวสู่ยุค Thailand 4.0 และสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นให้ประเทศไทยก้าวไปสู่สังคมไร้เงินสดหรือ Cashless Society ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต"
"แผนกลยุทธ์ธุรกิจในช่วงปี 2561 – 2564 บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการระดับคุณภาพ ในขณะเดียวกันยังคงมุ่งมั่นขยายเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์คาลเท็กซ์ครบวงจร เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจและพันธมิตรในประเทศไทย ด้วยกลยุทธ์ทางธุรกิจที่คำนึงถึงองค์ประกอบที่สำคัญในด้านต่างๆ อาทิ Smart Station, Smart Services, Smart Platform, Smart Partnership และ Smart Products ฯลฯ" นายซาลมาน กล่าวเสริม พร้อมให้รายละเอียดว่า
"ในด้าน Smart Station นั้น บริษัทฯ มีแผนขยายสถานีบริการน้ำมันอย่างต่อเนื่องปีละ 50 แห่ง ตลอด 4 ปี โดยตั้งเป้ามีสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ในเครือข่ายไม่น้อยกว่า 575 แห่งทั่วประเทศในปี 2564 มุ่งเน้นทำเลคุณภาพ บนเส้นทางสายหลักต่างๆ และหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการสรุปแบบของสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์รูปโฉมใหม่ โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้า รวมทั้งขนาด และทำเลที่ตั้งของสถานีบริการน้ำมันในการออกแบบ ซึ่งการออกแบบสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์รูปโฉมใหม่จะสะท้อนความสะดวก ผ่อนคลาย ทันสมัย สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถให้บริการได้อย่างลื่นไหล ไร้รอยต่อด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้า โดยคาดว่าบริษัทฯ จะเปิดให้บริการสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์รูปแบบใหม่ซึ่งถือเป็น Flagship แห่งแรกในไตรมาสที่ 4 อีกทั้งจะทยอยปรับปรุงและพัฒนาสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ในแบบฉบับของคาลเท็กซ์ให้กับลูกค้าเพื่อสร้างคุณค่าที่ประทับใจควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่อง"
สำหรับ Smart Services หรือ องค์ประกอบในด้านการบริการนั้น นายซาลมานกล่าวว่า "ประสบการณ์ด้านการบริการของผู้บริโภคจะมีผลโดยตรงต่อความเข้าใจในตัวแบรนด์รวมทั้งการเลือกใช้สถานีบริการน้ำมัน บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นให้ความสำคัญกับการพัฒนาการบริการของคาลเท็กซ์เป็นลำดับต้นๆ ด้วยการสนับสนุนในการจัดฝึกอบรมผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน และบุคลากรหน้าลาน เพื่อให้เข้าใจในส่วนงานบริการที่ได้มาตรฐาน มีความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ โปรโมชั่น แคมเปญต่างๆ รวมทั้งความรู้ด้านความปลอดภัย เพื่อให้มีทักษะสามารถให้บริการลูกค้าด้วยความประทับใจ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนการพัฒนายกระดับการบริการด้วยการบูรณาการสารสนเทศนำระบบดิจิทัลมาประยุกต์เพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานของผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันเพื่อที่จะสามารถอำนวยความสะดวกและสร้างเสริมบริการที่มีคุณค่าให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง"
"ในส่วนของ Smart Platform ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญ โดยทางภาครัฐเองก็ได้ประกาศวิสัยทัศน์เชิงนโยบาย Thailand 4.0 ที่จะเปลี่ยนเศรษฐกิจแบบเดิม สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติด้วยนวัตกรรม ซึ่งทางภาคเอกชนเองก็จำเป็นต้องปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลง โดยบริษัทฯ ก็มีแผนลงทุนสร้าง Platform ใหม่ให้สอดคล้องกับนโยบาย Technology 4.0 เพื่อที่จะสามารถนำเสนอนวัตกรรมคุณภาพที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการและสอดรับกับไลฟ์สไตล์ทันสมัยของผู้บริโภค โดยนำระบบสารสนเทศมาสนับสนุนการทำงานของผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน เพื่อให้สามารถสนองความต้องการของลูกค้าและสามารถสนับสนุนการทำงานของผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ ลูกค้าสามารถจัดการออเดอร์ เติมน้ำมัน จนกระทั่งจ่ายเงินได้ด้วยปลายนิ้วมือ นอกจากนี้เราก็ยังมีการวางแผนที่จะเปิดบริการระบบชำระเงินแบบใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภคได้อย่างครบวงจรด้วย" นายซาลมาน กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับองค์ประกอบสำคัญด้านที่ 4 หรือ Smart Partnership นั้น บริษัทฯ มีแผนเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานีบริการน้ำมันให้ครบวงจรและเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านธุรกิจค้าปลีกของสถานีบริการน้ำมันเพื่อขยายบริการและเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการให้มากกว่าการเข้ามาเติมน้ำมันเพียงอย่างเดียว ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีพันธมิตรธุรกิจค้าปลีก ทั้งร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ศูนย์บริการเปลี่ยนยาง เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ศูนย์ซ่อมเบา ล้างรถ ฯลฯ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายความร่วมมือกับพันธมิตรค้าปลีกอื่นๆ ซึ่งจะเป็นอีกแนวทางในการเสริมสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจให้กับผู้บริโภค
นอกจากนี้แล้ว บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะทำโปรโมชั่นร่วมกับพันธมิตร (Co-Promotion) เพื่อสร้างประสบการณ์อันทรงคุณค่าอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังคงร่วมมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ทั้ง True และ The 1 Card เพื่อนำเสนอสิทธิประโยชน์ที่ดึงดูดใจให้กับลูกค้าของทั้งสองฝ่ายอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมา โปรแกรม Loyalty ที่คาลเท็กซ์พัฒนาและนำเสนอร่วมกับ True และ The 1 Card ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั้งสองฝ่าย สามารถเติมเต็มประสบการณ์ความสุขให้กับลูกค้า คาลเท็กซ์ และสมาชิก TrueYou และ The 1 Card รวมทั้งสามารถเพิ่มยอดขายให้กับสถานีบริการน้ำมันได้อีกทางหนึ่งด้วย
นอกเหนือจากการนำเสนอประสบการณ์คุณค่า เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตตามวิสัยทัศน์ Smart Value for All แล้ว ในด้านผลิตภัณฑ์ หรือ Smart Products บริษัทฯ มิได้หยุดยั้งในการมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์น้ำมันระดับคุณภาพระดับโลก โดย ผลิตภัณฑ์คาลเท็กซ์ เทครอนใหม่ จากเทคโนโลยี คลีน แอนด์ไกลด์ (Clean & Glide Technology) ถือเป็นผลิตภัณฑ์แห่งความภาคภูมิใจที่คิดค้นมาเพื่อทำความสะอาดคราบเขม่าและปกป้องพื้นผิวโลหะภายในเครื่องยนต์ ช่วยลดแรงเสียดทานและลดการสึกหรอของชิ้นส่วนที่สำคัญของเครื่องยนต์ผลิตภัณฑ์คาลเท็กซ์ เทครอนใหม่ ของเราได้รับการทดสอบและพิสูจน์อย่างชัดแจ้งนะครับว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องเครื่องยนต์ เติมเต็มประสบการณ์แห่งความสุขในการขับรถอย่างลื่นไหลเต็มพลัง พร้อมประหยัดน้ำมันได้มากยิ่งขึ้น
"แม้ว่าในช่วงปี 2561-2564 ซึ่งทางบริษัทฯ อยู่ในระหว่างดำเนินการตามแผนตามวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ จะถือได้ว่าเป็น 4 ปีแห่งความท้าทาย แต่บริษัทฯ เชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ Smart Value for All และแผนธุรกิจ จะทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตได้ ซึ่งเปรียบเสมือนสูตรแห่งชัยชนะที่จะเติมพลัง และขับเคลื่อนให้เครือข่ายสถานีบริการน้ำมันและแบรนด์คาลเท็กซ์เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนในประเทศไทย" นายซาลมาน กล่าวในที่สุด