คุณเรวดี วัฏฏานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บาร์เทอร์คาร์ด ( ประเทศไทย ) จำกัด เปิดเผยว่าปัจจุบันเจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่มักให้ความสนใจกับสินค้าที่ขายดี หรือสินค้าที่ทำกำไรให้กับธุรกิจได้มาก แต่มักลืมนึกถึงสินค้าที่นอนนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหวในสต๊อก สินค้าเหล่านั้นเองที่ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า สต๊อกจม " สต๊อกสินค้าทุกชิ้นล้วนเป็นต้นทุนทั้งสิ้น การเกิดสต๊อกจมแน่นอนว่าเงินทุนของธุรกิจก็จะจมไปด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ธุรกิจไม่อยากให้เกิดขึ้น เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องรู้ว่าในสต๊อกของตนเองนั้น สินค้าประเภทใดที่เป็นสต๊อกจม และมีอยู่มากเท่าไหร่ นอกจากนี้ยังควรพิจารณาถึงระยะเวลาของสต๊อกว่าอยู่ในขั้นไหน กล่าวคือสินค้าไม่มีการขายเลยเป็นเวลา 30 วัน 60 วัน 90 วัน 180 วัน หรือมากกว่านั้น แล้วจึงวางแผนจัดการกับสต๊อกจมเหล่านั้นต่อไป ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธีตามกลยุทธ์ของแต่ละธุรกิจ เช่น การลด แลก แจก แถม เป็นต้น แต่วิธีส่วนใหญ่มักทำให้เกิดผลต่อกำไรที่ลดลง รวมถึงสร้างต้นทุนที่เพิ่มขึ้นด้วย
" บาร์เทอร์คาร์ด เล็งเห็นถึงปัญหานี้ของธุรกิจ จึงมุ่งมั่นที่จะสร้างความเข้าใจให้เจ้าของธุรกิจในการใช้บาร์เทอร์คาร์ด มาเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำหรับบริหารจัดการสต๊อกสินค้าของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย บาร์เทอร์คาร์ด จะนำเสนอสินค้าของท่านไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการโดยตรง ทำให้กระบวนการตัดสินใจซื้อเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การออกบูธงานแสดงสินค้า ในงาน Bartercard Trade Show ที่สมาชิกจะมารวมตัวกันเพื่อซื้อสินค้า เป็นโอกาสที่เจ้าของกิจการจะได้นำสต๊อก สินค้าของตนไปขายในงาน หรือการเพิ่มช่องทางขายโดยจ่ายเช่าค่าพื้นที่ด้วยบาร์เทอร์คาร์ด และนำสต๊อก สินค้าไปขายเป็นเงินสด หรือการซื้อสินค้าจากกลุ่มสมาชิกเพื่อนำมาทำโปรโมชั่นร่วมกับสต๊อกที่มีแล้วเพื่อขายในตลาดเงินสด หรือ ร่วมงาน Networking ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงการมีทีมงานฝ่ายดูแลลูกค้า ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายขายอีกทีมหนึ่งเพิ่มจากทีมขายที่ลูกค้ามีอยู่แล้ว เพื่อร่วมกันระบายสต๊อก จุดแข็งต่างๆ เหล่านี้ ทำให้ บาร์เทอร์คาร์ด สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยผู้ประกอบการในเรื่องสต๊อกได้เป็นอย่างดี " กรรมการผู้จัดการ กล่าว