ดร.รัชนีพร พุคยาภรณ์ พุกกะมาน อธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม กล่าวว่า การลงนามบันทึกความร่วมมือ การส่งเสริมความร่วมมือด้านการออมกับกองทุนการออมแห่งชาติ ระหว่าง กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กับ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ในครั้งนี้ ถือเป็นการทำงานร่วมกับภาครัฐ อีกด้านหนึ่งของมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นนโยบายและวิชั่นของมหาวิทยาลัยที่ดำเนินการมาโดยตลอด
โดยการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุนด้านวิชาการและให้ความรู้เกี่ยวกับการออมเงินการวางแผนการเงินไว้ในยามเกษียณ ส่งเสริมและสนับสนุนให้นักศึกษาในมหาวิทยาลัยทำการสมัครเป็นสมาชิกกับ กอช. ซึ่งมหาวิทยาลัยจะดำเนินการจัดให้ กอช.เป็นส่วนหนึ่งในเนื้อหาของการสอนในวิชาบังคับสำหรับนักศึกษา ชั้นปีที่ 1 หรือในวิชาที่เกี่ยวข้อง นับเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทยที่เป็นต้นแบบการสร้างความตระหนักรู้ด้าน การออมให้นักศึกษา
ดร.รัชนีพร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังจะช่วย ส่งเสริมและสนับสนุนการประชาสัมพันธ์กิจกรรมของ กอช. และกิจกรรมอื่นๆเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของการเป็นสมาชิก กอช. และดำเนินการจัดกิจกรรมส่งเสริมสนับสนุนให้นักศึกษาได้วางแผนทางการเงินและออมเงินกับ กอช. หรือกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกัน เพื่อให้สมาชิก กอช. มีวินัยการออม และจะสนับสนุนข้อมูลข่าวสารและสิทธิประโยชน์ร่วมกับ กอช. และกิจกรรมด้านอื่น ๆ ร่วมกันตามความเหมาะสม
อีกทั้งส่งเสริมให้มีศูนย์กลางในการให้ความรู้ด้านการออมแก่นักศึกษาและประชาชนอย่างทั่วถึง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักศึกษาและประชาชนที่สนใจได้สมัครเป็นสมาชิกกับ กอช. มากยิ่งขึ้นและส่งเสริมให้บุคลากรในหน่วยงานที่อยู่ในโครงสร้างหรือการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัยที่ยังมิได้รับสิทธิสวัสดิการเรื่องบำเหน็จบำนาญ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีสิทธิสมัครเป็นสมาชิก กอช. และไม่เป็นผู้ประกันตนตามกฎหมายประกันสังคมซึ่งส่งเงินเพื่อได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมาย กอช. ได้มีสิทธิสวัสดิการเรื่องบำเหน็จบำนาญโดยการเป็นสมาชิกกับ กอช. อีกด้วย
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. เปิดเผยว่า กอช. และม.ศรีปทุมได้เห็นพ้องต้องกันในการบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างหลักประกันบำนาญให้แก่ประชากรทุกกลุ่ม เพื่อการส่งเสริมประโยชน์ด้านการออมเงินไว้ใช้ในวัยชราซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับประชาชนที่ไม่ได้รับสิทธิความคุ้มครองทางการเงินในวัยเกษียณ และโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่หรือนักศึกษาที่มีโอกาสออมเงินไว้ใช้ในยามชราได้ยาวนานกว่าคนวัยทำงาน กอช. และมหาวิทยาลัยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าว
นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงในบั้นปลายชีวิต และการสร้างวินัยการออมให้กับนักศึกษาตั้งแต่วัยเรียนให้ตระหนักถึงความสำคัญของการออมเงินไว้ใช้ยามชรา และเป็นการสร้างช่องทางพื้นฐานให้แก่นักศึกษาซึ่งยังอยู่ในวัยเรียนและนักศึกษาที่ได้เข้าสู่วัยทำงานแล้ว ให้ได้รับความคุ้มครองเพื่อการชราภาพให้ได้รับผลประโยชน์ในรูปของเงินบำนาญเพื่อสร้างความเสมอภาค และความเป็นธรรมในการดูแลจากภาครัฐอย่างทั่วถึงอันเป็นไปตามเจตนารมณ์และวัตถุประสงค์แห่งการจัดตั้ง