นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด ได้อธิบายถึงเทคนิคการผ่าตัดศัลยกรรมความงามในปัจจุบันให้ฟังว่า
"เดิมการผ่าตัดศัลยกรรมความงาม มีข้อจำกัดอยู่หลายด้าน และไม่สามารถตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาได้อย่างครอบคลุม เมื่อเทียบกับเทคนิคการผ่าตัดในปัจจุบัน เช่น การผ่าตัดหนังหน้าท้อง สำหรับคุณแม่ที่มีบุตร หรือคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ซึ่งการผ่าตัดหนังหน้าท้องเดิมเป็นการผ่าตัดแบบ Full Abdominoplasty และ Mini Abdominoplasty ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน แต่ปัจจุบันเรามีการนำวิธีการผ่าตัดหนังหน้าท้องแบบใหม่ที่มีชื่อว่า "Modern Abdominoplasty" ซึ่งนำข้อดีของทั้งสองวิธีมารวมกัน ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ สามารถยกกระชับผิวหนังหย่อนคล้อยบริเวณหน้าท้องได้ทั้งหมด โดยมีขนาดแผลผ่าตัดเท่ากับการผ่าตัดคลอดลูกเท่านั้น และยังใช้เวลาพักฟื้นเพียงวันเดียว
แม้แต่การผ่าตัดดึงหน้า เพื่อยกกระชับผิวหนังที่มีความหย่อนคล้อย และมีริ้วรอยร่องลึกมาก ก็ใช้เวลาไม่นานในการผ่าตัดดึงหน้า เพราะเป็นการนำเทคนิคการผ่าตัดในชั้นกล้ามเนื้อ และชั้นลึกมากมาใช้ในการผ่าตัด ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ และให้ผลถาวรมากกว่าการดึงหน้าเฉพาะชั้นผิวหนัง ที่สำคัญคือ แผลเล็ก เจ็บน้อย หายไว และพักฟื้นเพียง 1 วันเท่านั้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ ใบหน้าดูเด็กลง 10 – 15 ปี
หรืออย่างที่มีการพูดถึงการเสริมหน้าอกในอดีตว่า เจ็บเหมือนถูกรถสิบล้อทับนั้น เพราะเดิมเป็นการใช้อุปกรณ์ที่เป็นโลหะหนัก ทำให้เกิดโพรงจึงมีการบอบช้ำของเนื้อเยื่อมาก แต่ในปัจจุบันนี้ เทคนิคการผ่าตัดและเครื่องมือที่ใช้พัฒนาไปมาก ทำให้เนื้อเยื่อได้รับความบอบช้ำน้อยลง ดังนั้น ไม่ต้องกลัวเรื่องความเจ็บปวด ส่วนการพักฟื้นเฉลี่ยเพียง 1-2 วัน ก็สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ"
แต่อย่างไรก็ตาม ความรวดเร็วในการผ่าตัดศัลยกรรมความงาม ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด เพราะศัลยกรรมความงาม ถือเป็นเรื่องศาสตร์และศิลป์รวมกัน คือ มีทั้งความละเอียด ประณีต และแพทย์ต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญสูง ดังนั้น หนุ่มๆ สาวๆ ที่รักจะสวยด้วยศัลยกรรมความงาม สิ่งสำคัญก่อนทำการศัลยกรรม ต้องศึกษาและหาข้อมูลให้รอบด้านจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น การปรึกษาหรือสอบถามแพทย์โดยตรง ควรตรวจสอบข้อมูลแพทย์ก่อนตัดสินใจศัลยกรรม พิจารณาสถานพยาบาลที่มีความปลอดภัย และมีคุณภาพ เป็นต้น