นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือจีไอที เปิดเผยว่า ขณะนี้ "เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน" ที่สถาบันจีไอทีได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ไปช่วยพัฒนา เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าที่มีการปรับรูปแบบให้ตรงตามความต้องการของตลาด ที่เน้นการใช้งานได้จริงมากกว่าการเป็นเครื่องปั้นดินเผาแบบเดิมๆ มีผู้สนใจซื้อไปใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่งร่างกาย ทั้งชาวไทยและต่างชาติ
"จีไอทีได้นำผู้ประกอบการที่ผลิตเครื่องประดับจากเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน ไปแสดงในงานบางกอกเจมส์ ครั้งที่ 61 เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับความสนใจทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก หลายรายแสดงความสนใจที่จะสั่งซื้อสินค้าไปจำหน่ายต่อ ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมให้กับเครื่องประดับที่ทำจากดินเผาจนประสบความสำเร็จ"
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดและผลักดันเครื่องประดับเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนให้เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น จีไอทีได้จัดนิทรรศการ "เครื่องประดับดินเผาด่านเกวียน สู่เมือง เลื่องชื่ออัตลักษณ์" โดยได้นำเครื่องประดับที่ทำจากเครื่องปั้นดินเผา และเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนที่ได้รับการพัฒนาแล้ว มาจัดแสดงและจำหน่ายให้กับประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ที่สถาบันจีไอที ถนนสีลม ซึ่งงานจะมีไปจนถึงวันที่ 27 เม.ย.2561 นี้ โดยผู้เข้าร่วมงาน สามารถเข้าร่วมกิจกรรม DIY ทำเครื่องประดับจากดินเผาด่านเกวียนได้ด้วยตนเองอีกด้วย
นางดวงกมลกล่าวว่า สำหรับการพัฒนาเครื่องประดับท้องถิ่น จีไอทีได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ไปยัง 6 ภูมิภาคเป้าหมายจำนวน 15 จังหวัด เพื่อร่วมกันค้นหาสินค้าอัตลักษณ์ท้องถิ่นและเข้าไปช่วยพัฒนาต่อยอดให้มีการปรับรูปแบบสินค้าให้ตรงกับความต้องการ และสามารถนำมาใช้งานได้จริง โดยใช้ความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ในการทำเครื่องประดับ และยังได้ช่วยในการหาตลาดรองรับ เช่น การนำเข้าร่วมงานแสดงสินค้า การผลักดันขายผ่านช่องทางออนไลน์ และการผลักดันให้แหล่งผลิตอัญมณีเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
"ปัจจุบันผู้ผลิตท้องถิ่นสามารถผลิตผลงานออกมาได้อย่างต่อเนื่อง และที่ถือว่าประสบความสำเร็จมาก ก็คือ เครื่องประดับเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน โดยเครื่องประดับที่ได้รับความนิยม เช่น เดิมทีร้านพิกุลดินเผา ทำนกฮูกสำหรับเป็นของตกแต่ง แต่ได้เข้าไปพัฒนาให้ทำนกฮูกเป็นเครื่องประดับ ทำเป็นสร้อยนกฮูก และนำอัญมณี เช่น Tiger's Eye , Quartz รวมถึงหนังเทียม มาทำเป็นเครื่องประดับสุดเก๋ไก๋ ทำให้ได้รับความนิยมและขายสินค้าได้เพิ่มขึ้น"นางดวงกมลกล่าว