โรลส์–รอยซ์ เปิดตัวนิว แฟนธอม ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39

พฤหัส ๒๙ มีนาคม ๒๐๑๘ ๑๑:๓๔
ภายในบูธ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ผู้ให้บริการชั้นยอดแห่งความหรูหราในด้านยานยนต์ ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 กอปรไปด้วย:

- การเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ครั้งแรกในไทยของสุดยอดยนตรกรรมแห่งความหรูหรา: โรลส์-รอยซ์ นิว แฟนธอม

- ผลงานศิลปะชั้นยอด เคียงข้างนิว แฟนธอมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากประเทศไทย ซึ่งเกิดจากการร่วมงานกันระหว่างโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก และช่างทางด้านกระเบื้องถ้วยชามขั้นสูง ของ พอร์เซเลน มานูฟาคทัว นิมเฟนบัวร์ก (Porzellan Manufaktur Nymphenburg) ประเทศเยอรมนี

- ยนตรกรรมชั้นยอดรุ่นอื่นๆเช่น โรลส์-รอยซ์ โกสต์ (Ghost), เรธ (Wraith) และ ดอว์น (Dawn)

ปฐมบทใหม่แห่งตำนาน

ภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 นี้ โรลส์-รอยซ์ หวนคืนสู่บัลลังค์ กับ ปฐมบทแห่งความหรูหราของยนตรกรรมในประเทศไทย ในครั้งนี้ทางแบรนด์ได้จัดแสดงยนตรกรรม แฟนธอม รุ่นฐานล้อยาว (Phantom Extended Wheelbase) สู่สายตาลูกค้าชาวไทย ซึ่งเป็นตลาดสำคัญในภูมิภาคเอเชียที่ชื่นชอบลิมูซีนรุ่นฐานล้อยาวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี

โดยในกาลแรกของการเผยโฉม นิว แฟนธอม คุณเอียน แกรนท์ ผู้จัดการฝ่ายขายสำหรับองค์กรธุรกิจทั่วโลกประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส กล่าวว่า "ยนตรกรรมนิว แฟนธอม ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามในประเทศไทย นับเป็นไอคอนเรือธงของแบรนด์ซึ่งถือเป็นปฐมบทใหม่แห่งตำนานในการยกระดับมาตรฐานของความหรูหรา ความพิเศษและดีไซน์เด่นชัดแฝงความหรูหราและระบบวิศวกรรมล้ำสมัย เพื่อแสดงถึง งานหัตถศิลป์สุดประณีตคุณภาพระดับเวิลด์คลาสที่ดีที่สุดที่โรลส์-รอยส์ได้สรรหามา

นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1925 โรลส์-รอยซ์ แฟนธอม รุ่นฐานล้อยาว (Extended Wheelbase) ได้กลายเป็นยานยนต์ยอดนิยมของเหล่าบุรุษและสตรีผู้ทรงอิทธิพลและทรงอำนาจสูงสุดของโลกมาโดยตลอด โดยในวันนี้ ตำนานแห่งความหรูหราระดับมาสเตอร์พีซได้ถูกเขียนขึ้นใหม่ เพื่อยกระดับมาตรฐานของความเป็น ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี ที่แท้จริง ห้องแสดงผลงานศิลปะอันได้แรงบัลดาลไทยจากประเทศไทย (Gallery Art Inspired by Thailand)

นิว แฟนธอม เป็นยนตรกรรมหรูหราหนึ่งเดียวในโลกที่เปรียบเสมืองดั่งห้องแสดงผลงานศิลปะเคลื่อนที่ บริเวณแผงหน้าปัดเอื้อต่อการใช้งานรูปแบบใหม่ โดยจัดให้เป็นพื้นที่แสดงผลงานศิลปะที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มพื้นที่ในการแสดง อัตลักษณ์ของผู้เป็นเจ้าของ นิว แฟนธอม ให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น โดยภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 นี้ ทางโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ได้จัดแสดงผลงานศิลปะชั้นสูงใน นิว แฟนธอม โดยได้แรงบันดาลใจมาจากดอกไม้ประจำชาติไทย กล่าวคือ "ดอกราชพฤกษ์"

ตามข้อมูลจากสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ ดอกราชพฤกษ์ หรือ ดอกคูน เป็นดอกไม้ที่พบได้อย่างแพร่หลายในทุกภูมิภาคของไทยและได้รับการนับถือว่าเป็น "ไม้มงคลนาม" ลำต้นของราชพฤกษ์แข็งแกร่ง อายุยืน มีทรวดทรงและพุ่มงาม โดยเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2544 คณะรัฐมนตรีได้ประกาศให้ดอกราชพฤกษ์เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย

นิมเฟนบัวร์ก และ โรลส์-รอยซ์

ผลงานศิลปะระดับสูงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดอกราชพฤกษ์นี้ เกิดจากการร่วมงานกันระหว่าง โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก และ ช่างทางด้านกระเบื้องถ้วยชามขั้นสูงของพอร์เซเลน มานูฟาคทัว นิมเฟนบัวร์ก (Porzellan Manufaktur Nymphenburg) ประเทศเยอรมนี

"เมื่อปี 2016 โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก ได้เปิดตัวรถยนต์โรลส์-รอยซ์ โกสต์ รุ่น คชมงคล ซึ่งมีเพียงคันเดียวในโลก จากการออกแบบพิเศษแบบ "บีสโป๊ค" (Bespoke) ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์งานศิลป์ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของผู้ใช้รถ โรลส์-รอยซ์แต่ละท่าน ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีและเป็นที่ชื่นชอบ ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงถึงความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมไทย ทางโรลส์-รอยซ์ ได้สรรสร้างสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมไทยส่งผ่านทางนิว แฟนธอม นับเป็นยนตรกรรมเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่เหนือยอดแห่งทุกขีดจำกัด" กล่าวโดย คุณสุนทรพันธ์ เตชะเทศ ผู้จัดการทั่วไป โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก

คุณแอนเดอร์ส ทอมัส ซีอีโอ แห่ง พอร์เซเลน มานูฟาคทัว นิมเฟนบัวร์ก กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานศิลปะที่จัดแสดงในงานนี้ว่า"ผลงานศิลปะชิ้นนี้ได้ถ่ายทอดความงามของดอกราชพฤกษ์ตั้งแต่ยังเป็นดอกตูมจนกระทั่งผลิบานเต็มที่ ซึ่งต้องอาศัยเทคนิคการปั้นที่ละเอียดอ่อนอย่างที่สุดในการปั้นแต่ละชิ้นส่วนด้วยพอร์ซเลนคัดพิเศษที่ขาวบริสุทธิ์ที่สุด ใบแต่ละใบ ดอกแต่ละดอก ล้วนเป็นชิ้นงานหัตกรรมที่มีเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของช่างศิลป์ของนิมเฟนบัวร์ก ไม่ต่างไปจากวิศรกรของโรลส์-รอยซ์ที่สร้างสรรค์นิว แฟนธอม"

ระบบวิศวกรรมเพื่อยานยนต์ระดับมาสเตอร์พีซ

รถยนต์แฟนธอมรุ่นที่ 8 หรือนิว แฟนธอม นำเสนอดีไซน์แบบร่วมสมัย โดยตีความจากความเป็น โรลส์-รอยซ์ แบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นเหมือนดั่งสัญลักษณ์ที่แสดงถึงอัตลักษณ์อันทรงพลังของ โรลส์-รอยซ์ คุณเอียน แกรนท์ ผู้จัดการฝ่ายขายสำหรับองค์กรธุรกิจทั่วโลกประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส กล่าวว่า "นวัตกรรมอันล้ำหน้าใน นิว แฟนธอม เป็น 'สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา' ด้วยโครงสร้างอลูมิเนียมรูปแบบใหม่ ตอกย้ำว่า นิว แฟนธอม คือสายพันธุ์แห่งยานยนต์โรลส์-รอยซ์ ที่แท้จริง ทั้งในด้านสถาปัตยกรรมและสัดส่วนยานยนต์ ซึ่งพร้อมมอบ "การขับขี่ที่นุ่มนวลราวพรมวิเศษ" ที่เหนือระดับในทุกสภาวะ ด้วยโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาขึ้น แข็งแกร่งขึ้น เงียบขึ้น และล้ำหน้ากว่าด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงสุด เป็นสิ่งที่ทางเรามั่นใจว่า โรลส์-รอยซ์ นิว แฟนธอม จะเป็นสัญลักษณ์ใหม่แห่งความหรูหราในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่เราให้ความสำคัญมากเป็นอันดับต้น ๆ "

ประสบการณ์ "การขับขี่ที่นุ่มนวลราวพรมวิเศษ" ได้รับการปรับปรุงคุณภาพไปสู่จุดที่ทำให้รถยนต์โรลส์-รอยซ์ นิว แฟนธอมแทบไร้เสียงรบกวน ด้วยเทคโนโลยีแบบบูรณาการ ทั้งการใช้ฉนวนกันเสียงที่มีน้ำหนักมากกว่า 130 กิโลกรัม, เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.75 ลิตรรุ่นใหม่ โดยเครื่องยนต์ V12 รุ่นใหม่ของแฟนธอมใช้ตัวอัดบรรจุอากาศเทอร์โบแบบคู่ ซึ่งมอบแรงบิดต่ำสุดที่ 900 นิวตันเมตรในระดับการหมุนเหลือเชื่อที่ 1,700 รอบต่อนาที โดยยังคงมอบพลังขับเคลื่อนสูงถึง 563 แรงม้าหรือ 420 กิโลวัตต์ ทำให้สามารถวิ่งได้เงียบแม้ในระดับความเร็วต่ำ อีกทั้งยังมอบความรู้สึกพิเศษของการโดยสารและไร้การกระตุกของเครื่องเมื่อต้องการเร่งความเร็ว

สิ่งที่มาพร้อมกับความแข็งแกร่งขั้นสุดยอดของโครงสร้างแบบ Spaceframe คือโครงช่วงล่างที่มอบความสะดวกสบายที่สุดในรถยนต์คลาสเดียวกัน ด้วยระบบกันสะเทือนแบบอากาศและระบบการควบคุมโครงช่วงล่างที่ดีเยี่ยม รวมถึงติดตั้งพวงมาลัยขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งทำงานประสานกันเพื่อมอบความสบายแก่ผู้โดยสารในทุกสภาวะการขับขี่ ซึ่งเมื่อวิศวกรด้านการทดสอบเสียงของ โรลส์-รอยซ์ มาทำการตรวจสอบผลการขับขี่บนถนนและการสั่นสะเทือนเป็นครั้งแรก ปรากฏว่ารถยนต์มีระดับเสียงต่ำมากจนเขาต้องตรวจสอบอุปกรณ์วัดเสียงว่าวัดค่าได้ถูกต้องแน่หรือไม่

นอกจากนี้ นิว แฟนธอม ยังได้ติดตั้ง "Flagbearer" เอาไว้ ซึ่ง Flagbearer นี้ (ชื่อมีที่มาชวนให้นึกถึงคนโบกธงที่ทำหน้าที่โบกธงแดงหน้ารถยนต์สมัยก่อน) คือระบบกล้องสเตอริโอไว้กับกระจกหน้ารถเพื่อให้มองเห็นถนนข้างหน้าในระยะไกล จึงสามารถปรับค่าระบบกันสะเทือนล่วงหน้าได้ในระดับความเร็วสูงถึง 100 กม./ชม. ทั้งยังมีการติดตั้งไฟวงแหวนสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันและระบบไฟเลเซอร์ที่ทันสมัยที่สามารถส่องสว่างบนท้องถนนในเวลากลางคืนได้ไกลถึง 600 เมตร เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ในเวลากลางคืน

"The Suite - ห้องสวีท"

การเลือกสรรอย่างประณีตละเอียดอ่อนในทุกรายละเอียดและทุกองค์ประกอบภายในรถ ด้วยแนวคิดความสะดวกสบายขั้นสูงสุดราวกับการเข้าพักในห้องสวีทของโรงแรมหรู ด้วยการเลือกใช้หนังที่ดีที่สุดและไม้บุพื้นผิวอันประณีตที่มีความเงางามสูงเอื้อต่อการรองรับสรีระของผู้โดยสารให้รู้สึกสะดวกสบายราวกับถูกโอบอุ้ม และประตู coach door อันโด่งดังของโรลส์-รอยซ์ ใน นิว แฟนธอมนี้ มาพร้อมสัมผัสเซ็นเซอร์อย่างนุ่มนวลที่มือจับประตู ซึ่งอำนวยความสะดวกในการปิดได้จากข้างนอก ประตูจะปิดลงอย่างเงียบกริบเพื่อนำผู้โดยสารเข้าสู่การรองรับสรีระที่เป็นเลิศของสุดยอดยานยนต์ระดับหรูของโลก

ในโรลส์-รอยซ์ นิว แฟนธอม นี้ เบาะหลังสามารถปรับเปลี่ยนให้ตรงตามความต้องการของแต่ละคนได้อย่างอิสระ โดยสามารถเลือกได้ตั้งแต่เบาะนั่งสไตล์เลานจ์ (Lounge Seat) ไปจนถึงเบาะแบบเดี่ยว (Individual Formats) โดยซ่อนฟังก์ชั่นการใช้งานและเทคโนโลยีต่างๆไว้ได้อย่างแนบเนียนภายใต้ความสวยงามและความหรูหราขององค์ประกอบและพื้นผิวสัมผัส

บทสรุป

ทั้งแนวคิด Architecture of Luxury, The Magic Carpet Ride, The Suite, The Gallery, การใช้วัสดุที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่บนโลก รวมถึงงานออกแบบและระบบวิศวกรรมที่ดีเยี่ยมไร้คู่แข่งของโรลส์-รอยซ์ ทำให้ นิว แฟนธอม ไม่เพียงสร้างมาตรฐานใหม่ในฐานะ "รถยนต์ที่ดีที่สุดในโลก" เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราชั้นนำของโลกอีกด้วย

เมื่อ โรลส์-รอยซ์ เปิดตำนานบทใหม่ รถยนต์รุ่น นิว แฟนธอม จึงกลายเป็นผู้สร้างแนวทางสู่อุตสาหกรรมรถยนต์หรูระดับโลกอย่างเต็มภาคภูมิ

โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39

เปิดตัว นิว แฟนธอม เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในรุ่นฐานล้อยาว (Extended Wheelbase) สีม่วง Belladonna และ ภายในทูโทน ด้วยสีม่วง Purple Silk ตัดกับสีขาว Arctic White โดยผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองรถ นิว แฟนธอมได้ล่วงหน้า โดยมีระยะเวลาส่งมอบรถอยู่ที่ประมาณ 6-9 เดือน

โดย โรลส์-รอยซ์ นิว แฟนธอม รุ่นฐานล้อมาตรฐาน (Standard Wheelbase) ราคา 53.5 ล้านบาท และ รุ่นฐานล้อยาว (Extended Wheelbase) ราคา 59.5 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมียานยนต์โรลส์-รอยซ์ รุ่นต่างๆ อาทิ เช่น

- โกสต์ (Ghost) รุ่นฐานล้อยาว (Extended Wheelbase)สีทูโทน Midnight Sapphire และ Jubilee Silver ตบแต่งภายในทูโทน สีน้ำเงิน Navy Blue และสีครีมอ่อน

- เรธ (Wraith) สีเงิน Silver และภายในทูโทนสี Seashell และ Navy Blue

- ดอว์น (Dawn) สีทูโทน Anthracite/Silver ภายในสีทูโทน Seashell และ Black

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version