นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2561 "เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2561 ขยายตัวอย่างทั่วถึงในทุกภูมิภาค นำโดย ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน สอดคล้องกับการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจทุกภูมิภาคยังอยู่ในเกณฑ์ดี" โดยมีรายละเอียด สรุปได้ดังนี้
ภาคกลาง เศรษฐกิจส่งสัญญาณขยายตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 กลับมาขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 9.2 ต่อปี ตามการขยายตัวพระนครศรีอยุธยาและอ่างทอง เป็นสำคัญ สอดคล้องกับการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งและรถจักยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 20.5 และ 2.0 ต่อปี ตามลำดับ ตามการขยายตัวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นสำคัญ สอดคล้องกับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากยอดรถปิคอัพและรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 2.3 และ 39.7 ต่อปี ตามลำดับ นอกจากนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 4,595.4 ล้านบาท ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าในอัตราเร่งที่ร้อยละ 278.1 ต่อปี จากการลงทุนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในโรงงานผลิตชิ้นส่วน และอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ เป็นหลัก ขณะที่ เงินทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 553 ล้านบาท สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนธันวาคม 2560 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 6.7 และ 10.6 ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับการผลิตภาคเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตข้าวนาปรัง และหมวดปศุสัตว์ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ (เบื้องต้น) 2561 อยู่ในระดับที่เอื้อต่อการบริโภคที่ร้อยละ 1.0 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนมกราคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 1.2 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เศรษฐกิจส่งสัญญาณขยายตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงภาคเกษตรเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 กลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 6.5 ต่อปี ตามการขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานี นครราชสีมา และนครพนม เป็นต้น สอดคล้องกับการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้ปานกลางและสูง สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 21.4 ต่อปี ตามการขยายตัวในทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดนครราชสีมา และศรีสะเกษ เป็นต้น เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชน ที่ขยายตัวได้ดี สะท้อนจากยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 18.1 ต่อปี ตามการขยายตัวในจังหวัดขอนแก่น และอุบลราชธานี เป็นสำคัญ นอกจากนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 375 ล้านบาท ขณะที่ เงินทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 5,399 ล้านบาท ขยายตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ 391.7 ต่อปี ตาการลงทุนในจังหวัดสกลนคร เป็นสำคัญ สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนธันวาคม 2560 ขยายตัวร้อยละ 5.1 และ 9.5 ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับการผลิตภาคเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น จากการผลิตมันสำปะหลัง และข้าวโพด เป็นสำคัญ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ (เบื้องต้น) 2561 อยู่ที่ร้อยละ -0.5 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนมกราคม 2561 อยู่ที่ ร้อยละ 1.1 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคใต้ เศรษฐกิจขยายตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ขยายตัวร้อยละ 7.4 ต่อปี ตามการเพิ่มขึ้นในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และกระบี่ เป็นต้น สอดคล้องกับการบริโภคสินค้าในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้ปานกลางและสูง สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 29.2 ต่อปื ตามการขยายตัวในจังหวัดภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และชุมพร เป็นสำคัญ เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากยอดรถปิคอัพและยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 6.3 และ 29.9 ต่อปี ตามลำดับ นอกจากนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 350 ล้านบาท ขณะที่ เงินทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 2,755 ล้านบาท กลับมาขยายตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ 310.9 ต่อปี จากการลงทุนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นสำคัญ สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนธันวาคม 2560 ขยายตัวร้อยละ 4.4 และ 13.6 ต่อปี ตามลำดับ ตามการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต และพังงา เป็นสำคัญ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2561 (เบื้องต้น) อยู่ในระดับเอื้อต่อการบริโภคที่ร้อยละ 0.2 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนมกราคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 1.8 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคเหนือ เศรษฐกิจฟื้นตัว โดยมีการบริโภคภาคเอกชน และภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ กลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 6.9 ต่อปี ตามการเพิ่มขึ้นในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ และอุตรดิตถ์ เป็นต้น สอดคล้องกับการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้ปานกลางและสูง สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 16.2 ต่อปี ตามการขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ และอุตรดิตถ์ เป็นต้น เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 8.8 ต่อปี นอกจากนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 230.8 ล้านบาท ขณะที่ เงินทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 439 ล้านบาท ขยายตัว 0.4 ต่อปี สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนธันวาคม 2560 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 5.6 และ 10.5 ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับการผลิตภาคเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น จาการขยายตัวของผลิตข้าวนาปรัง อ้อยโรงงาน และข้าวโพด เป็นสำคัญ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ (เบื้องต้น) 2561 ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.0 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนมกราคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 1.1 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
กทม.และปริมณฑล เศรษฐกิจขยายตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน และการท่องเที่ยว เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ขยายตัวร้อยละ 4.0 ต่อปี ตามการขยายตัวในทุกจังหวัด โดยเฉพาะ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และปทุมธานี เป็นต้น สอดคล้องกับการบริโภคสินค้าในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้ปานกลางและสูง สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 20.5 ต่อปี ตามการขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เป็นสำคัญ เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากยอดรถปิคอัพจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 4.4 ต่อปี นอกจากนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 1,909.4 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในจังหวัดสมุทรสาคร ในโรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์โลหะ 470.2 ล้านบาท และโรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์พลาสติก 260.9 ล้านบาท เป็นสำคัญ ขณะที่ เงินทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 2,767 ล้านบาท สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนธันวาคม 2560 ขยายตัวร้อยละ 8.3 และ 19.2 ต่อปี ตามลำดับ ตามการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ และปทุมธานี เป็นสำคัญ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ (เบื้องต้น) 2561 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.3 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนมกราคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 1.1 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคตะวันออก เศรษฐกิจขยายตัว โดยมีการบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 18.9 ต่อปี ตามการขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดระยอง และปราจีนบุรี เป็นต้น สอดคล้องกับการบริโภคสินค้าในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้ปานกลางและสูง สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 12.5 ต่อปี ตามการขยายตัวของจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง เป็นต้น เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 1,621.2 ล้านบาท จากการลงทุนในจังหวัดชลบุรี ในโรงงานซ่อมรถยนต์ และโรงงานผลิตแผ่นพลาสติก เป็นต้น ขณะที่เงินทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 1,689 ล้านบาท สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนธันวาคม 2560 ขยายตัวร้อยละ 4.9 และ 14.2 ต่อปี ตามลำดับ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ (เบื้องต้น) 2561 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ -1.2 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนมกราคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 0.9 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคตะวันตก เศรษฐกิจฟื้นตัว โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการบริโภคสินค้าคงทน รวมถึงการท่องเที่ยว เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้ปานกลางและสูง สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 8.8 ต่อปี ตามการขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดสุพรรณบุรี และกาญจนบุรี เป็นสำคัญ เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวร้อยละ 17.6 ต่อปี นอกจากนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 204.2 ล้านบาท ขณะที่ เงินทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 169 ล้านบาท สำหรับด้านอุปทาน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดีทั้งจำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ในเดือนธันวาคม 2560 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 7.1 และ 11.1 ต่อปี ตามลำดับ ตามการท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรสงคราม กาญจนบุรี และประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น สำหรับด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ (เบื้องต้น) 2561 ที่ยังอยู่ในระดับที่เอื้อต่อการบริโภคที่ร้อยละ 0.7 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนมกราคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 0.7 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค