ไม่รับรู้รสชาติ...ปัจจัยเสี่ยงเป็นโรคอ้วน

พุธ ๒๘ มีนาคม ๒๐๑๘ ๑๙:๔๕
โดย นพ. ดร. เดวิด ฮีเบอร์ , M.D., Ph.D., F.A.C.P., F.A.S.N. ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านโภชนาการของเฮอร์บาไลฟ์และประธานสถาบันโภชนาการเฮอร์บาไลฟ์

ไม่ว่าจะในแวดวงการแพทย์หรือการรับรู้ของคนทั่วไป เราต่างเคยได้ยินถึงสาเหตุมากมายที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคอ้วนในปัจจุบัน ทั้งปัจจัยด้านพันธุกรรม การอพยพหลั่งไหลของผู้คนเข้ามาในเมืองใหญ่ที่สามารถเข้าถึงร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ตั้งเรียงรายนับไม่ถ้วน รวมถึงเมนูอาหารราคาถูกแต่ทำร้ายสุขภาพและมีแคลอรี่สูงที่วางขายกันทั่วไป ไหนจะพฤติกรรมในชีวิตประจำวันกับการนั่งแช่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ และการเสพติดอุปกรณ์สื่อสารอีกล่ะ มิหนำซ้ำเด็กยุคใหม่ยังใช้เวลาทำกิจกรรมนอกบ้านน้อยลงเรื่อย ๆ และจมอยู่กับโลกออนไลน์แทบจะตลอดเวลาที่ลืมตาตื่นขึ้นมา

ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้เป็นความจริงอยู่ไม่มากก็น้อย ทว่ายังมีอีกสาเหตุอีกประการของโรคอ้วนที่ไม่ค่อยได้รับการพูดถึงมากนัก แต่เป็นสิ่งที่เราทุกคนต่างสร้างขึ้นมาในระบบร่างกายของตนเอง นั่นคือ ปุ่มประสาทรับรสที่อยู่บริเวณลิ้น

หากลองคิดง่าย ๆ แน่ล่ะว่าเป็นเหตุผลที่เข้าท่ามาก เนื่องจากปุ่มรับรสมีความสัมพันธ์กับอาหารที่เรารับประทานเข้าไปอยู่แล้ว โดยปุ่มรับรสเหล่านี้มีหน้าที่รับรู้และแยกแยะความแตกต่างของรสชาติอาหารนานาชนิด ทั้งเค็ม หวาน เปรี้ยว ขม หรือแม้กระทั่งรสอร่อยกลมกล่อมหรือรสอูมะมิ ปุ่มรับรสจะทำงานกันเป็นระบบที่เรียกว่า ระบบการรับรู้สารอาหาร (Nutrient sensing system) และช่วยบ่งบอกว่าอาหารใดดูปลอดภัยหรือมีคุณค่าสารอาหารเหมาะสมเพียงพอที่จะบริโภคเข้าไปในร่างกาย ทั้งหมดนี้เป็นความเชื่อมโยงที่เราสามารถเห็นภาพได้อย่างชัดเจน

แต่เพียงเพราะรสชาติอาหารที่เรารับรู้จากต่อมรับรส ซึ่งบอกให้เรารู้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบรสชาติหรืออาหารบางอย่างนั้น จะมีผลทำให้น้ำหนักตัวของบางคนเกินพิกัดจริงหรือไม่ หรือใครจะไม่ได้รับผลกระทบนี้?

การศึกษาวิจัยหลายฉบับตอบว่า "จริง" โดยนักวิจัยหลายคนพบว่า ผู้ป่วยโรคอ้วนอาจประสบปัญหาการรับรู้รสชาติได้น้อยลง ซึ่งการค้นพบของพวกเขาได้สะท้อนให้เห็นว่า คนที่มีต่อมรับรสที่ด้านหรือไม่ไวมักจะมองหาอาหารที่มีปริมาณน้ำตาล เกลือ และไขมันสูงกว่าปกติ หรือบริโภคอาหารที่มีแคลอรี่มากขึ้นเพื่อจะได้รับรู้รสชาติเท่ากับคนทั่ว ๆ ไป

นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยอื่น ๆ ที่ยืนยันข้อสันนิษฐานที่ว่า ความผิดปกติของปุ่มประสาทรับรสที่ลิ้นอาจทำให้เราบริโภคพลังงานมากเกินความต้องการและนำไปสู่โรคอ้วนได้ในที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น ระบบการรับความรู้สึก เช่นการรับรู้รสชาติ ก็มีบทบาทสำคัญในการควบคุมและทำให้รู้สึกเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารด้วย ซึ่งสัมพันธ์โดยตรง กับปริมาณการรับประทานที่เพิ่มขึ้น การรับรู้รสชาติได้น้อยลง และการเกิดโรคอ้วน

แล้วอย่างนี้ คนที่มีภาวะน้ำหนักเกินและมีปุ่มรับรสชาติเสื่อมจะหมดหวังเลยหรือไม่ คำตอบคือไม่หมดหวังแน่นอน เนื่องจากมีหลักฐานระบุว่า การรับรู้รสชาติจะเปลี่ยนแปลงไปหากเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารให้ดีขึ้น โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงการรับประทานเกลือและไขมัน

สำหรับผู้ที่มีหน้าที่คอยให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน การเข้าใจความแตกต่างของรสชาติจะช่วยให้เราเข้าใจสาเหตุของการที่น้ำหนักตัวเพิ่มได้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้มองเห็นและเข้าใจภาพรวมของกระบวนการทำงานในร่างกายมนุษย์ รวมไปถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของแต่ละคนด้วย

ความรู้เหล่านี้จำเป็นสำหรับการทำความเข้าใจภาวะวิกฤติโรคอ้วนของเรา รวมทั้งสาเหตุที่ทำให้คนยังเป็นโรคอ้วนไปจนถึงวิธีการจัดการ ซึ่งเราต้องนำข้อมูลที่ได้มาใช้ประโยชน์ในการช่วยสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง และพัฒนาความเป็นอยู่และชีวิตของผู้คนในปัจจุบันให้ดีขึ้นไปพร้อมกัน

กดไลค์เราที่เฟซบุ๊ค พร้อมอีกหลากหลายเคล็ดลับดี ๆ เพื่อสุขภาพที่ดีและไลฟ์สไตล์ที่กระฉับกระเฉง ได้ที่

www.facebook.com/HerbalifeThailandOfficial

และค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ได้ที่ www.instagram.com/HerbalifeThailandOfficial

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ