นายสมชาย มนต์บุรีนนท์ รองผู้ว่าการ (วิชาการ) รักษาการแทนผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้อาจไม่รุนแรงเท่ากับปีที่ผ่านมา แต่ภาพรวมของภัยแล้งจะมาเร็วกว่าทุกปี อีกทั้งสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำและเขื่อนบางพื้นที่ ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดลงอย่างรวดเร็วและอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง กปภ. ในฐานะหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยมีภารกิจหลักในการจัดหาและให้บริการน้ำประปาที่สะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภค ได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร โดยที่ผ่านมา กปภ. ได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งกำหนดมาตรการป้องกันอย่างรอบด้าน เช่น การสำรวจและจัดหาแหล่งน้ำดิบสำรองเป็นของตนเอง วางแผนเตรียมพร้อมรับมือล่วงหน้าเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ตลอดจนบูรณาการ การทำงานร่วมกับหน่วยงานภายนอก เพื่อลดความเสี่ยงและบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้งให้มากที่สุด ซึ่งในปี 2561 กปภ. ยังคงร่วมเป็นภาคีเครือข่าย ร่วมกับกองทัพบก กรมทรัพยากรน้ำบาดาล การไฟฟ้า ส่วนภูมิภาค และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ดำเนินโครงการ "ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง" โดย กปภ.พร้อมให้การสนับสนุนน้ำประปา ณ จุดจ่ายน้ำของการประปาส่วนภูมิภาค 234 สาขาทั่วประเทศ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดารที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ ทั้งนี้ ได้จัดพิธีแถลงข่าวและเปิดโครงการฯ ในวันจันทร์ที่ 2 เมษายน 2561 เวลา 15.00 น. ณ ห้อง 221 กองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนินนอก เขตพระนคร กรุงเทพฯ
รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมา กปภ. ได้ร่วมสนับสนุนจ่ายน้ำฟรีเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้งไปแล้วประมาณ 276 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่า 5 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า ภายใต้แนวคิด "save water , you make it ประหยัดน้ำ คุณทำได้" เพื่อให้มีทรัพยากรน้ำเหลือใช้อย่างเพียงพอและไม่ขาดแคลนในช่วงฤดูแล้ง ทั้งนี้ หากประชาชนในพื้นที่ใดประสบปัญหาขาดแคลนน้ำประปาสำหรับใช้ในการอุปโภคและบริโภค สามารถแจ้งได้ที่ กปภ. 234 สาขาในแต่ละพื้นที่ หรือ PWA Contact Center 1662