ซึ่งประกอบด้วยนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์และวิศวกร ที่ได้สำเร็จการฝึกอบรมการตรวจวัดกัมมันตภาพรังสีและระดับรังสีในสิ่งแวดล้อม ซึ่งอำนวยการสอนและถ่ายทอดความรู้โดยเจ้าหน้าที่ผู้ที่มีความชำนาญด้านการตรวจวัดกัมมันตภาพรังสีในสิ่งแวดล้อม ของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ตั้งแต่วันที่ ๑๙ – ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๑ การฝึกอบรมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้โครงการถ่ายทอดความรู้เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการตรวจวัดกัมมันตภาพรังสีและระดับรังสีในสิ่งแวดล้อมของราชอาณาจักรกัมพูชา ตามกรอบความร่วมมือเครือข่ายหน่วยงานกำกับดูแลการใช้พลังงานปรมาณูในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Network of Regulatory Bodies on Atomic Energy : ASEANTOM) เพื่อสนับสนุนการป้องกันอันตรายจากรังสีที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน จากกิจกรรมทางด้านนิวเคลียร์และรังสีทั้งจากภายในและภายนอกประเทศของราชอาณาจักรกัมพูชาและเพื่อส่งเสริมให้เกิดความเข้มแข็งของเครือข่ายการตรวจวัดกัมมันตภาพรังสีและระดับรังสีในสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคอาเซียน ภายใต้กรอบความร่วมมือ ASEANTOM อีกทั้งจะเป็นการพัฒนาความพร้อมด้านเทคนิคของราชอาณาจักรกัมพูชาในการเข้าร่วมโครงการความร่วมมือเชิงวิชาการในด้านนี้ กับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency, IAEA) และสหภาพยุโรป (European Union, EU) ต่อไป
ดร. อัจฉรา กล่าวว่า การเสริมสร้างความเข้มแข็งของโครงการการตรวจวัดกัมมันตภาพรังสีในสิ่งแวดล้อมให้มีการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทั่วภูมิภาค จะเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับหากเกิดเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสมทันท่วงที อีกทั้งจะช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม ประชาชน และเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปส. ในการส่งเสริมศักยภาพและผลักดันบุคลากรของ ปส. ให้มีโอกาสถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และเทคโนโลยีให้กับนานาประเทศ อันจะเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการดำเนินงานภายใต้กรอบความร่วมมือ ASEANTOM ที่พร้อมจะมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อการกำกับดูแลการใช้พลังงานปรมาณูในภูมิภาคอาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๖๐ ปส. ได้จัดโครงการถ่ายทอดความรู้เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการตรวจวัดกัมมันตภาพรังสีและระดับรังสีในสิ่งแวดล้อมนี้ให้กับนักวิจัยจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเช่นเดียวกัน และมีแผนที่จะมุ่งที่จะขยายเครือข่ายไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนต่อไปอีกด้วย