นายองอาจ ปัณฑุยากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล่า จำกัด(มหาชน) หรือALLA เปิดเผยว่า บริษัทฯได้รับงานก่อสร้างเครนในส่วนของโรงไฟฟ้าบางปะกง และโรงไฟฟ้าเบิกไพร มูลค่ารวมกว่า 85 ล้านบาท ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยงานดังกล่าวจะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 2562
นอกจากนี้ บริษัทฯยังอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานของบริษัทในกลุ่มปตท. คาดว่าน่าจะทราบผลในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ รวมถึงยังคงมองหาโอกาสในการเข้าร่วมประมูลงานในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิเช่น ปิโตรเคมี ยานยนต์ อาหาร โรงไฟฟ้า อุตสาหกรรมเหล็ก และโลจิสติก พร้อมกับพยายามขยายตลาดเข้าไปสู่อุตสาหกรรมต่อเนื่องในภาคการก่อสร้าง เพื่อผลักดันการเติบโตในแง่ของผลประกอบการให้เป็นไปตามเป้าหมาย
"ผลจากการเข้าประมูลงานและได้รับงานอย่างต่อเนื่องทำให้มูลค่างานในมือในไตรมาส 1/61 เพิ่มขึ้น และบริษัทมีความมั่นใจว่ารายได้ในปี 2561 จะเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ประมาณ 7-10% จากปี 2560 ที่มีรายได้ 620 ล้านบาท และในแง่ของผลกำไรจะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง และรักษาอัตรากำไรสุทธิไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ระดับ 9.27%" นายองอาจกล่าว
นายองอาจกล่าวต่อว่า ภายหลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ได้เห็นชอบร่างพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC) จะสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมเติบโต และจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับบริษัทฯในการเข้าไปร่วมรับงานจากภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ภายใต้โครงการEEC
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะจัดประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 เมษายน 2561 โดยมีวาระสำคัญจะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.07 บาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.7% สูงกว่าเงินฝาก กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2561 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 18 พฤษภาคม 2561
ลักษณะธุรกิจของ ALLA
เป็นผู้ผลิต จำหน่าย และติดตั้งอุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่ เครนและรอกไฟฟ้า (Crane and Hoist) ผู้นำเข้าและจำหน่ายพร้อมติดตั้ง สะพานปรับระดับ (Dock Leveler) ประตูอุตสาหกรรม (Industrial Door) ผู้จำหน่ายและติดตั้งม่านริ้วพีวีซี (PVC Strip Curtain) และม่านตัดอากาศ (Air Curtain) สำหรับเพื่อใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า หรือสถานประกอบการต่างๆ รวมถึงมีการให้บริการต่างๆ ได้แก่ บริการหลังการขาย เช่น งานซ่อม งานเปลี่ยนอะไหล่ งานบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) และบริการศูนย์ฝึกอบรมการใช้เครน