บลจ.ทาลิส มองทิศทางหุ้นไทยปรับฐานตามหุ้นโลก คาดการณ์กรอบสูงสุด 1,900 จุด ชี้ทิศทางดอกเบี้ยยังเป็นขาขึ้น แนะลงกองทุนหุ้นปันผล - ตราสารหนี้ระยะสั้น

จันทร์ ๐๙ เมษายน ๒๐๑๘ ๑๓:๔๙
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จำกัด หรือ TALISAM เปิดเผยว่า บลจ.ทาลิสคาดการณ์กรอบดัชนีหุ้นไทยในปี2561 อยู่ที่ประมาณ 1,700 - 1,900 จุด ถือเป็นการประเมินกรอบการปรับตัวของดัชนีที่กว้าง เนื่องจากในปีที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวกว่า 200 จุด และใน 4 ปีก่อนหน้ามีการปรับตัวประมาณกว่า 300 จุด จึงคาดการณ์ว่าในปีนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะมีการปรับตัวประมาณ 250-300 จุด ซึ่งถือเป็นกรอบการปรับตัวในสถานะที่ปกติของตลาดหุ้นไทยที่จะมีการปรับตัวประมาณ 20%

สำหรับการปรับตัวของตลาดหุ้นทั่วโลก ยังคงมีปัจจัยภายนอกที่เข้ามารบกวนทั้งเรื่องของสงครามการค้าสหรัฐอเมริกา-จีน การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มปรับฐานมาตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยเป็นระยะเวลา 2 เดือนมาแล้ว ซึ่งปกติธรรมชาติของตลาดหุ้นหากมีการปรับตัวขึ้นมาจากการปรับฐานนั้น ก็จะกินระยะเวลาประมาณ 3-6 เดือน ดังนั้นแนวโน้มการปรับตัวของตลาดหุ้นไทยในระยะจากนี้ยังถือว่าอยู่ในช่วงของการปรับฐานบวก-ลบ ดัชนีที่ประมาณ 1,800 จุด

นายประภาสกล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่สภาวะตลาดหุ้นมีความผันผวนและปรับฐานอยู่ขณะนี้ แนะนำลงทุนในกองทุนประเภทหุ้นปันผล ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อย และเหมาะกับช่วงสถานการณ์ที่บริษัทต่างๆ มีการจ่ายเงินปันผลออกมาของรอบผลประกอบการปี 2017 โดยอยู่ในช่วงตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤษภาคมเป็นต้นไป

"ด้านความกังวลเรื่องสงครามการค้าสหรัฐอเมริกา-จีนท้ายที่สุดจะเป็นเพียงกลยุทธ์ในการเจรจาต่อกัน ส่วนเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ยุโรป และไทยที่ผ่านมามีการปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ และมีการประมาณการในอนาคตว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน หากดูตัวอย่างย้อนหลังไปประมาณ 2 ปี ของประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ในปี 2015 มีการปรับดอกเบี้ยขึ้นมา 6 ครั้ง ในด้านของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็มีการปรับขึ้นมาประมาณ30% ส่วนตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมาแล้วประมาณ 30% เช่นเดียวกัน" นายประภาสกล่าว พร้อมเพิ่มเติมว่า

ในส่วนของการปรับดอกเบี้ยทั้งของสหรัฐอเมริกาและทั้งโลกขณะนี้ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น และคาดว่าจะมีการทยอยปรับขึ้นอีก โดยขึ้นอยู่กับความพร้อมทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ แต่สำหรับประเทศไทยคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะเวลาอย่างเร็วน่าจะเป็นช่วงสิ้นปี 2561 หรือในปีหน้า ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น (Money market fund) ก็จะมีความปลอดภัยมากกว่า เพราะหากเป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นการลงทุนในตราสารหนี้แบบยาว ก็จะมีความเสี่ยงที่ตัวราคาตราสารหนี้ต่างๆ ที่อาจจะปรับตัวลดลงเพราะดอกเบี้ยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ฉะนั้นกลยุทธ์การจัดสรรเงินลงทุนแบ่งเป็นสินทรัพย์ในหุ้น50% ตราสารหนี้ระยะสั้น 50% หากผู้ลงทุนมองในระยะเวลา 3 ปี หรือ 5ปี และรับความเสี่ยงได้ถือเป็นกลยุทธ์ที่ดี

"คาดว่าในปีนี้สหรัฐอเมริกาจะมีการปรับดอกเบี้ยขึ้นอีก 2 ครั้ง ในปีหน้าอีก 3 ครั้ง และในปี 2020 อีก 2 ครั้ง ซึ่งรวมๆกันแล้วประมาณ 7 ครั้ง ซึ่งถือเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาน่าจะอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อไป ดังนั้นสภาพเศรษฐกิจที่ดี ตลาดหุ้นอาจจะมีการผันผวนบ้างแต่ว่าเทรนในระยะยาวก็ยังมองว่าเป็นช่วงขาขึ้นอยู่เช่นกัน"นายประภาสกล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version