"ด้านผลการดำเนินงานของกองทุน RKF-HI2 อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยประวัติการจ่ายปันผลนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนจนถึงการจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้ มีการจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 24 ครั้ง รวมเป็นอัตรา 12.2590 บาทต่อหน่วย ส่วนในรอบผลดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมา (1 เม.ย. 60 - 31 มี.ค. 61) จ่ายปันผลรวมทั้งสิ้นในอัตรา 0.58 บาทต่อหน่วย หรือสามารถคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย (Dividend Yield) อยู่ที่ 11.60% ต่อปี ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือน ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 5.79% และผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 14.23% (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มี.ค 61)" นางสาวธิดาศิริกล่าว
นางสาวธิดาศิริกล่าวต่อไปว่า สำหรับมุมมองด้านการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวน โดยปรับตัวลงแรงเมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุคาดว่ามาจาก 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ความกังวลในเรื่องของ Trade war ระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ดูเหมือนจะเริ่มมีความรุนแรงและชัดเจนมากยิ่งขึ้นจากการประกาศตอบโต้จากทางฝั่งของจีนล่าสุด ที่มีการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ กว่า 100 รายการ ทั้งนี้ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าของทั้งฝั่งสหรัฐฯและจีนนั้น จะมีผลบังคับใช้เมื่อใด และทั้งสองฝ่ายจะสามารถเจรจากันได้หรือไม่ ขณะที่อีกหนึ่งปัจจัยมาจากภายในประเทศ จากการที่ธนาคารไทยปรับลดประมาณการการเติบโตจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (non-interest income) หลังจากที่ช่วงก่อนหน้าได้มีการประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมโอน ชำระสินค้าและบริการสำหรับการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งอาจส่งผลต่อรายได้ของกลุ่มธนาคารในภาพรวม
อย่างไรก็ตาม บลจ.กสิกรไทยยังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยในระยะกลางถึงยาว เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ดี ซึ่งจะส่งผลให้กำไรของบริษัทจดทะเบียนเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เม็ดเงินลงทุนภาครัฐโดยเฉพาะในโครงการขนาดใหญ่ที่เริ่มทยอยเข้าสู่ระบบจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนภาคเอกชนตามมา การบริโภคภายในประเทศที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นตามเศรษฐกิจที่ขยายตัว รวมถึงสภาพคล่องในประเทศที่อยู่ในระดับสูง จะเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกลุ่มธนาคารมีการปรับประมาณการรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลง อาจส่งผลให้ประมาณการเติบโตของกำไรของตลาดโดยรวมลดลง บลจ.กสิกรไทยจึงคาดว่าเป้าหมาย SET Index ปลายปี 2561 อาจมีการปรับลดลงมาอยู่ในช่วง 1,800 – 1,850 จุด บนปัจจัยพื้นฐานที่ระดับ P/E ปี 2561 ที่ประมาณ 16 - 16.5 เท่า ดังนั้นผู้ลงทุนยังสามารถอาศัยจังหวะทยอยเข้าลงทุนในกองทุนหุ้นไทยเพิ่มเติมได้
ผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน RKF-HI2 สามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือติดต่อ KAsset Contact Center 02673 3888
กองทุน รอบผลการดำเนินงาน อัตราเงินปันผล (บาท/หน่วย)
RKF-HI2 1 ตุลาคม 2560 - 31 มีนาคม 2561 0.33
*คิดจาก NAV วันที่ 30 มี.ค.61
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ บลจ.กสิกรไทย หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายหน่วยลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต