บลจ.ไทยพาณิชย์ ออกกอง LTF เน้นผสมกลยุทธ์ลงทุนเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน มองศก.โลก-ไทยหนุนตลาดหุ้น ชี้ปี 61 กำไรบจ.โต 10-12%

พุธ ๑๘ เมษายน ๒๐๑๘ ๑๕:๕๒
นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯ ออกกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวซีเล็คท์ (SCB Selects Long Term Equity Fund : SCBLTSE) ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ที่มีพื้นฐานดีมั่นคงมีแนวโน้มเจริญเติบโตสูง รวมถึงตราสารทุนหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงผลตอบแทนของหุ้นหรือกลุ่มหุ้นของบริษัทจดทะเบียนดังกล่าว โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม และอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน การบริหารความเสี่ยง ทั้งนี้เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้เพิ่มขึ้น โดยจะเริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันนี้-23 เมษายน 2561 นี้ มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท

ทั้งนี้บลจ.ไทยพาณิชย์ มองว่าภาพรวมการลงทุนตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องในปีนี้ จากการที่ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกมีการขยายตัวอย่างชัดเจน อีกทั้งเศรษฐกิจไทยยังมีการเติบโตมากขึ้นจากการท่องเที่ยว การบริโภคภายในประเทศ และการส่งออกที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้การอัตราการเติบโตของกำไรของบริษัทจดทะเบียนในปี2561 คาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 10-12% ทำให้ ณ ระดับปัจจุบันตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายอยู่ที่ระดับ PE 15.7 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ไม่แพง

โดยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวซีเล็คท์ เป็นกองทุนที่บริหารโดยทีมผู้จัดการกองทุนหุ้นไทยที่มีประสบการณ์ยาวนาน มีกองทุนภายใต้การบริหารที่ได้รับการจัดอันดับมอร์นิ่งสตาร์ 5ดาว* และ 4 ดาว* (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561)โดยกองทุนนี้เน้นสร้างผลตอบแทนเหนือตลาดอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีข้อจำกัดการลงทุน มีการใช้กลยุทธ์ที่ผสมผสานหลากหลายโมเดลการลงทุนให้เหมาะสมตามสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งในแต่ละโมเดลการลงทุนมีการคัดเลือกหุ้นที่ผู้จัดการกองทุนมีความเชื่อมั่นว่ามีโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับพอร์ตการลงทุนได้สูงที่สุด

สำหรับโมเดลการลงทุน ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ การพิจารณาปัจจัยพื้นฐานและทีมบริหาร เพื่อคัดเลือกหลักทรัพย์ที่มีพื้นฐานดีในราคาที่เหมาะสม การพิจารณาปัจจัยทางเศรษฐกิจมหาภาค เพื่อคัดเลือกหลักทรัพย์ที่อาจได้ประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือได้รับการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ ตลอดจนการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (Machine Learning) และการวิเคราะห์เชิงคุณภาพในการพิจารณากว่า 200 ปัจจัยการลงทุนเพื่อคัดเลือกหลักทรัพย์ให้สอดคล้องกับสถาณการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งครอบคลุมหุ้นกว่า 178 ตัว ขณะเดียวกันยังบริหารความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมตามสถานการณ์ โดยมีการประเมิน ควบคุม ติดตาม และรายงานความเสี่ยงที่สำคัญต่อพอร์ตการลงทุนด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม เช่น พิจารณาจากค่าความเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (Beta) และค่าความเบี่ยงเบนของผลตอบแทนจากเกณฑ์มาตรฐาน (Tracking Error) เป็นต้น เพื่อมุ่งเน้นการหาผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอในระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีก่อนตัดสินใจลงทุน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ SCBAM Call Centerโทร.02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ