แนวทางการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางการเงิน (Financial Technology : FinTech)

พุธ ๑๘ เมษายน ๒๐๑๘ ๑๖:๕๔
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังมีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรม FinTech อย่างจริงจัง เพื่อให้เกิดแรงขับเคลื่อนในการพัฒนาอุตสาหกรรม FinTech ในวงกว้าง อันจะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น และสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาการให้บริการทางการเงินในระบบการเงินของไทย สอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาลที่มุ่งหวังให้เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศกระทรวงการคลังจึงเสนอแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางการเงิน ซึ่งประกอบด้วย3 มาตรการ ได้แก่ 1) พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางการเงิน 2) ผลักดันหน่วยงานภาครัฐเป็นผู้ให้และผู้ใช้ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับ FinTech และ 3) จัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเงิน (Institute for Financial Innovation and Technology) หรือ InFinIT ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแนวทางดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561 แนวทางดังกล่าว สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

1) พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางการเงิน เพื่อให้ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการทางการเงินสามารถทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย โดยกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมอยู่ระหว่างดำเนินโครงการสำคัญ 2 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติที่ส่งเสริมการบูรณาการระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งในระบบภาครัฐและภาคเอกชน และ 2) โครงการพัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Identification Platform) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนและลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน ซึ่งเป็นภาระแก่ทั้งผู้แสดงตนและผู้มีหน้าที่ในการตรวจสอบความถูกต้องและยืนยันตัวตนในด้านเวลาและทรัพยากร

2) ผลักดันหน่วยงานภาครัฐเป็นผู้ให้และผู้ใช้ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับ FinTech โดยกระทรวงการคลังจะผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นทั้งผู้ให้และผู้ใช้บริการผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับ FinTech มากขึ้น เช่น การรับจ่ายเงินภาครัฐทางอิเล็กทรอนิกส์การบูรณาการระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ การจ่ายสวัสดิการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ การเพิ่มช่องทางในการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ของ SFIs เป็นต้น เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรม FinTech อีกทางหนึ่ง

3) จัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเงิน (Institute for Financial Innovation and Technology : InFinIT) เพื่อทำหน้าที่ส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นที่เกี่ยวข้องกับ FinTech (FinTech Startups) และพัฒนาสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศน์ของอุตสาหกรรม FinTech (FinTech Ecosystem) ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 โดย InFinIT จะทำหน้าที่ ดังนี้ 1) บ่มเพาะและส่งเสริม FinTech Startups ให้สามารถต่อยอดความคิดให้เป็นนวัตกรรมทางการเงิน 2) เสริมสร้างความสามารถทางการดำเนินธุรกิจเพื่อให้ FinTech Startups สามารถพัฒนานวัตกรรมในเชิงการค้าได้ 3) สร้างเครือข่ายของภาครัฐและภาคเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ FinTech ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อให้ประเทศไทยมี FinTech Ecosystem ที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรม FinTech 4) ผลักดันให้มีการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการให้บริการทางการเงินในประเทศไทยในทุกภาคส่วน ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมการสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์หรือบริการทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับ FinTech ของ SFIs และ 5) ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ รวมทั้งทักษะที่เกี่ยวข้องกับ Fintech เพื่อสร้างผู้ปฏิบัติงานในอุตสาหกรรม FinTech หรือผู้ประกอบการในอนาคต (Talent Pipeline)

ทั้งนี้ InFinIT จะประสานงานกับหน่วยงานที่ทำหน้าที่บ่มเพาะและเร่งการพัฒนา (Incubators and Accelerators) ในระดับนานาชาติ สถาบันการศึกษาชั้นนำ หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศรวมทั้ง สถาบันการเงินเฉพาะกิจและผู้ให้บริการทางการเงินประเภทต่างๆ ในการจัดทำโครงการต่าง ๆ ของ InFinIT

นางสาวกุลยาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า "FinTech และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ FinTech เช่น บล็อกเชน ปัญญาประดิษฐ์ เป็นต้น ได้มีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างยิ่งในการทำธุรกรรมการเงินในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งอุตสาหกรรม FinTech และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมีความสำคัญไม่เพียงต่อการให้บริการทางการเงินเท่านั้น แต่ยังจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอื่น ๆ ในวงกว้าง รัฐบาลได้เห็นถึงความสำคัญและได้พิจารณาถึงผลกระทบของ FinTech ที่มีต่อประชาชน และผู้ให้บริการทางการเงิน รวมถึงแนวทางในการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรม FinTech เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ"

สำนักนโยบายระบบการเงินและสถาบันการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3219

โทรสาร 0 2618 3366

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๔๑ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๖:๓๙ คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๖:๐๘ พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๖:๐๑ BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๖:๒๘ บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๖:๐๖ PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๖:๔๖ CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๖:๒๕ ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ