นายทองคำ มานะศิลปะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SIMAT เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 มีมติอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 106,402,919 หุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Right Offering) ในอัตราส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาเสนอขายหุ้นละ 2 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (Record date)ในวันที่ 10 พ.ค. 2561 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (XR) ในวันที่ 09 พ.ค. 2561 โดยบริษัทฯ คาดว่าจะได้รับเงินจากการเพิ่มทุนดังกล่าวประมาณ 175 ล้านบาท ซึ่งเงินเพิ่มทุนส่วนหนึ่งจำนวน 93 ล้านบาท จะไว้ใช้สำหรับลงทุนซื้อกิจการของฮินชิซึ ส่วนที่เหลือจะนำไปใช้คืนหนี้เงินกู้ระยะยาวและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
นอกจากนี้ ยังมีมติอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 4 (SIMAT-W4) จำนวนไม่เกิน 53,201,460 หน่วย ในสัดส่วน 12 หุ้นต่อ 1 Warrant เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทหลังจากบริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้ว โดยมีราคาใช้สิทธิที่ 1 บาท ใช้สิทธิได้ครั้งเดียวเมื่อสิ้นอายุ 3 ปี (ปี 2564)
อีกทั้ง ยังมีมติอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพโดยเฉพาะเจาะจง (Private Placement) จำนวนไม่เกิน 500 ล้านบาท ให้แก่ Advance Opportunities Fund I (AO FUND) ซึ่งถือเป็นเงินสำรองสำหรับบริษัทเพื่อใช้ในการลงทุนขยายกิจการ งานโครงการภาครัฐ หรือซื้อกิจการใหม่อื่นๆ โดยจะใช้ก็ต่อเมื่อมีโครงการที่ให้ผลตอบแทนดีและความเสี่ยงต่ำ โดยคาดว่าจะเริ่มใช้ในช่วงปลายปี 2561 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังมีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนเดิม 516,550,596 บาทเป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 816,618,970 บาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 300,068,374 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท และมีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 300,068,374 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท อีกด้วย
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ เช่น การจับมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่อสังหาฯ ของเมืองไทย เพื่อขยายการให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตและไอที การจับมือกับพันธมิตรเคเบิ้ลท้องถิ่น เพื่อต่อยอดให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านโครงข่ายใยแก้วนำแสง (FTTx) ภายใต้แบรนด์ "Sinet" จากเดิม B-C เป็น B-B ซึ่งเชื่อมั่นว่าการเข้ามาเจาะตลาดนี้ของ SIMAT จะช่วยขยายฐานรายได้ และผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
"ส่วนการเข้าร่วมลงทุนในบริษัท ฮินชิซึ (ประเทศไทย) จำกัด (ฮินชิซึ) ซึ่งประกอบธุรกิจ Silk Screen Printing ที่เป็นแผงวงจรควบคุมสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเดิมมีรายได้เฉลี่ย 300 - 400 ล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีตามภาวะอุตสาหกรรม Home Appliance จะส่งผลทำให้ SIMAT เริ่มรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวตั้งแต่ไตรมาส 2/2561 เป็นต้นไป ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนันสนุนให้ผลการดำเนินงานภายในปีนี้พร้อมกลับมาเทิร์นอะราวด์ตามแผน" นายทองคำ กล่าวในที่สุด