เวียตเจ็ทมุ่งขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศ นำเทรนด์ธุรกิจการบิน ในปี 2018 พร้อมจ่ายปันผลสูงถึง 50%

จันทร์ ๓๐ เมษายน ๒๐๑๘ ๑๖:๐๗
การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเวียตเจ็ทประจำปี 2018 โดยคณะกรรมการบริษัทเวียตเจ็ทกรุ๊ป (ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์: VJC) มีสัดส่วนผู้ถือหุ้นกว่า 91.74% เข้าร่วมประชุม และมีการอนุมัติในประเด็นส่วนใหญ่ที่เสนอให้พิจาณาในที่ประชุมสามัญครั้งนี้

รายงานการดำเนินงานโดยนายลิว ดึก แข็ง กรรมการผู้จัดการสายการบินเวียตเจ็ท ในนามของคณะกรรมการฝ่ายบริหาร ระบุว่าบริษัทประสบความสำเร็จทุกด้านในปี 2017 ที่ผ่านมา

ความสำเร็จของเวียตเจ็ทในปีที่ผ่านมา ประกอบด้วยการรับมอบเครื่องบินใหม่ 17 ลำ หนึ่งในนั้นเป็นเครื่องบินแอร์บัส A321 Neo ลำแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และด้วยการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ทำให้เวียตเจ็ทครองต้นทุนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในธุรกิจการบินของภูมิภาค และมีอัตราความน่าเชื่อถือทางเทคนิคสูงถึง 99.66% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของฝูงบินรุ่นแอร์บัส A320/321

ด้วยการขยายเส้นทางบินภายในประเทศเวียดนาม รวมถึงจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ในแถบเอเชียเหนือ ทำให้เวียตเจ็ทเป็นผู้ดำเนินงาน 38 เส้นทางบินภายในประเทศเวียดนามและ 44 เส้นทางบินระหว่างประเทศ เชื่อมโยงสู่มหานครและเมืองใหญ่ที่มีประชากรมากกว่าครึ่งของโลก สายการบินให้บริการเที่ยวบินอย่างปลอดภัยแล้วกว่า 98,805 เที่ยวบิน ด้วยจำนวนผู้โดยสารราว 17.11 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ราว 22%

นอกเหนือจากจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินเช่าเหมาลำระหว่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น จำนวนเที่ยวบินก็มีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างสัมพันธ์กัน ทำให้เวียตเจ็ทสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างดี โดยงบการเงินรวมที่ผ่านการตรวจสอบบัญชีของปี 2017 ระบุว่าเวียตเจ็ทมีรายได้ 42,303 พันล้านดอง (58.75 พันล้านบาท) โดยมีผลกำไรหลังหักภาษีที่ 5,073 พันล้านดอง (7.04 พันล้านบาท) โดยมีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นจากปี 2016 ที่ 54% และ 73% ตามลำดับ กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 11,356 ดอง (15.76 บาท)

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2017 เวียตเจ็ทเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ โดยคณะกรรมการบริษัทให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินงานตามมาตรฐานสากล ทั้งในด้านบรรษัทภิบาล การบริหารจัดการ และความโปร่งใสด้านข้อมูล

ผลการดำเนินธุรกิจที่เป็นบวก ทำให้คณะกรรมการบริษัทได้ยื่นเรื่องและได้รับอนุมัติจากบรรดาผู้ถือหุ้นให้เพิ่มการจ่ายปันผลของปี 2017 จาก 50% เป็น 60% ซึ่งบริษัทจะจ่ายล่วงหน้าเป็นเงินปันผล 30% และจะจ่ายเงินปันผลอีก 10% ในวันที่ 25 พฤษภาคม โดยอีก 20% จะจ่ายเป็นหุ้นปันผล

สำหรับปี 2018 บริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 50,970 พันล้านดอง (70.74 พันล้านบาท) และกำไร 5,800 พันล้านดอง (8.05 พันบ้านบาท) โดยรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นจากปี 2017 ที่ 20.5% และ 10% ตามลำดับ โดยคณะกรรมการบริษัทได้ยื่นเรื่องและได้รับอนุมัติจากบรรดาผู้ถือหุ้นให้เพิ่มการจ่ายปันผลของปี 2018 อยู่ที่ 50%

ตลาดการบินของเวียดนามและเอเชียจะยังคงเติบโตอย่างเข้มแข็งในปี 2018 เมื่อเศรษฐกิจมีอัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในระดับสูงสุดเท่าที่เคยมีมา และรัฐบาลยังคงส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้เป็นภาคธุรกิจหลัก ซึ่งจะดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนสู่เวียดนาม ด้วยการขยายเส้นทางและเพิ่มจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศสู่ญี่ปุ่น อินเดีย และออสเตรเลีย ทำให้เวียตเจ็ทกลายเป็นสายการบินข้ามพรหมแดนต้นแบบที่เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์และความสามารถในการแข่งขันงบการเงินรวมที่ผ่านการตรวจสอบบัญชี (หน่วยดอลลาร์สหรัฐ โดยอาจเปลี่ยนแปลงตามความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน)

จากข้อมูลงบการเงินรวมที่ผ่านการตรวจสอบบัญชีปี 2017 ของเวียตเจ็ทกรุ๊ป มีผลกำไรหลังหักภาษีที่ 230.63 ล้านดอลล่าร์ (7,286.76 ล้านบาท) รายได้สุทธิอยู่ที่ราว 1.92 พันล้านดอลลาร์ (60.66 พันล้านบาท) แสดงให้เห็นว่าผลกำไรเพิ่มขึ้น 150% จากที่เป้าไว้ในปี 2017 และเพิ่มขึ้น 103% ของปีที่ผ่านมา

การจัดสรรผลกำไรแก่ผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 230.59 ล้านดอลลาร์ เท่ากับเพิ่มขึ้น 103.3% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2016 และ 150% เมื่อเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่บริษัทกำหนด โดยกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.52 ดอลลาร์ (15.80 บาท) เพิ่มขึ้น 73% จากปีที่ผ่านมา

ข้อมูลผลเงินกำไรก่อนการจัดสรร ของเวียตเจ็ทเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2017 อยู่ที่ 264 ล้านดอลลาร์ (8,341.09 ล้านบาท) ซึ่งก่อนหน้านั้น บริษัทได้เพิ่มอัตราการจ่ายปันผลจาก 50% เป็น 60% โดยบริษัทได้จ่ายล่วงหน้าเป็นเงินปันผล 30% และวางแผนจะจ่ายอีก 30% ในรูปของหุ้นปันผล แต่ด้วยผลกำไรที่สูงขึ้นและเงินสดที่มีตามที่กล่าวในข้างต้น ทำให้คณะกรรมการบริษัทยื่นเรื่องในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี เปลี่ยนเป็นการจ่ายเงินปันผลอีก 10% โดยอีก 20% จะจ่ายเป็นหุ้นปันผล ซึ่งการจ่ายปันผลในอัตราสูงนี้ถือเป็นธรรมเนียมที่เวียตเจ็ทปฏิบัติมาอย่างยาวนาน

เกี่ยวกับ เวียตเจ็ทกรุ๊ป

สายการบินเวียตเจ็ท คือสายการบินในประเทศเวียดนามรายแรกซึ่งดำเนินธุรกิจสายการบินยุคใหม่ ซึ่งนอกจากบริการขนส่งผู้โดยสาร สายการบินเวียตเจ็ทยังใช้เทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซใหม่ล่าสุด เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการมากมายแก่ผู้บริโภค เมื่อเร็ว ๆ นี้ สายการบินเวียตเจ็ท (เวียดนาม) ได้รับบรรจุเป็นสมาชิกของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ ไออาตา (International Air Transport Association: IATA) โดยสมบูรณ์ หลังจากได้รับใบรับรองการบริหารความปลอดภัยของสายการบินจากไออาตาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ เวียตเจ็ทยังได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 500 แบรนด์ชั้นนำของเอเชียประจำปี พ.ศ. 2559 (Top 500 Brands in Asia 2016)โดย เนลเซน สถาบันวิจัยการตลาดระดับโลก และได้รับรางวัล "สายการบินต้นทุนต่ำที่ดีที่สุดในเอเชีย (Best Asian Low Cost Carrier)" ในงานประกาศผลรางวัล TTG Travel Awards 2015 ซึ่งรางวัลนี้เกิดจากการโหวตคะแนนเสียงของนักเดินทาง สำนักงานท่องเที่ยว และบริษัทนำเที่ยวในทวีปเอเชีย โดยสายการบินเวียตเจ็ทถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสามสายการบินที่มีการเติบโตบนเฟซบุ๊ครวดเร็วที่สุดของโลกโดย Socialbakers

ปัจจุบัน เวียตเจ็ทให้บริการผู้โดยสารด้วยเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A320 และ A321 รวมมากกว่า 55 ลำ และดำเนินการบิน 385 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งให้บริการแก่นักเดินทางมาแล้วกว่า 55 ล้านคน เปิดให้บริการ 82 เส้นทางในเวียดนามและทั่วภูมิภาค รวมถึงเส้นทางสู่จุดหมายปลายทางในประเทศต่างๆ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง จีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย เมียนมาร์ และกัมพูชา

สายการบินเวียตเจ็ทมีแผนการขยายเครือข่ายเส้นทางให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคต่อไปและได้เตรียมการทำสัญญาสั่งซื้อเครื่องบินลำใหม่ที่ทันสมัยจำนวนมากจากบรรดาผู้ผลิตอากาศยานชั้นนำระดับโลก

ติดตามกิจกรรมและข่าวสารล่าสุดของเวียตเจ็ทได้ทางเฟซบุ๊ก www.facebook.com/vietjetthailand และทวิตเตอร์ @Vietjetvietnam ดูวีดีโอล่าสุดได้ที่ https://www.youtube.com/user/Vietjetvietnam

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ