ตามที่บริษัทฯ ได้จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2561 เวลา 14.00 น. ณ ห้องธาราเทพ ฮอล์ล โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค เลขที่ 247 ถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบรับรองรายงานการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 753,429,080 ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์
จากนั้น ที่ประชุมผู้ถือหุ้นรับทราบผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมาและรายงานประจำปี 2560, อนุมัติงบแสดงฐานะทางการเงิน งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ และงบกระแสเงินสด ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี สำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560, อนุมัติการงดจัดสรรกำไรเป็นทุนสำรองตามกฎหมาย และงดจ่ายเงินปันผล, อนุมัติการเลือกตั้งกรรมการใหม่แทนกรรมการที่ออกตามวาระประจำปี 2561 จำนวน 3 คน ได้แก่ นายนิพนธ์ อรุณพูลศิล, นายศุภศิษฏ์ โภคินจารุรัศมิ์ และ นาย ออง ทีฮา โดยเป็นการเลือกกรรมการทั้ง 3 ท่าน กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง, อนุมัติการกำหนดค่าตอบแทนของคณะกรรมการบริษัทฯ ประจำปี 2561, อนุมัติการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าตอบแทนของผู้สอบบัญชีของบริษัทฯประจำปี 2561 ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 753,674,166 ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ (ในระหว่างวาระที่ 3 ได้มีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมเพิ่มเติมจำนวน 4 ท่าน)
นอกจากนี้ อนุมัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทฯ และชื่อย่อหลักทรัพย์, อนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯ ข้อ 1. เรื่องชื่อบริษัทฯ เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทฯ, อนุมัติการแก้ไขเปลี่ยนแปลงตราประทับของบริษัทฯ, อนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของบริษัทฯ เกี่ยวกับชื่อบริษัทฯ และให้สอดคล้องกับกฎหมายที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม, อนุมัติการย้ายที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทฯ จากจังหวัดนนทบุรี เป็นจังหวัดกรุงเทพมหานคร, อนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 5. เรื่องที่ตั้งสำนักงานใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับการย้ายที่ตั้งสำนักงานใหญ่, อนุมัติการย้ายที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทย่อยทุกแห่ง จากจังหวัดนนทบุรี เป็นจังหวัดกรุงเทพมหานคร ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 753,674,166 ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์
นายศุภศิษฏ์ โภคินจารุรัศมิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้กล่าวถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน เนื่องจากปี 2560 ทางบริษัทฯ ได้ประสบปัญหาระดับประเทศ ที่เกิดจากตั๋วสัญญาใช้เงินระยะสั้น (B/E Crisis) ที่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง ถึงอย่างไรก็ตามทางบริษัทฯ ได้ก้าวผ่านวิกฤตการณ์ดังกล่าวมาได้ โดยการปรับโครงสร้างทางการเงินให้สอดคล้องกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้บริษัทฯ ได้จำหน่ายสินทรัพย์และธุรกิจขนาดเล็กทั้งในและต่างประเทศที่ไม่สอดคล้องกับรูปแบบธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อนำกระแสเงินสดไปลดภาระทางการเงินที่สูงและนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัทฯ รวมถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อพัฒนาโครงการต่างๆของบริษัทฯ ยังย้ำให้ผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นว่าทางทีมผู้บริหารได้มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ และดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ได้มองหาโอกาสในการลงทุนในโครงการใหม่ๆ โดยได้ศึกษาและดำเนินการอย่างรัดกุมมากขึ้น เพื่อปิดความเสี่ยงในทุกๆ ด้าน