Baania เปิดผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยย่านมีนบุรีช่วงบางชัน-คันนายาว ชี้รถไฟฟ้า 2 สายชมพู-ส้มเสริมศักยภาพทำเลอยู่อาศัยชานเมืองฝั่งตะวันออก

พุธ ๐๒ พฤษภาคม ๒๐๑๘ ๑๓:๒๖
Baania เปิดผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยย่านมีนบุรีช่วงบางชัน-คันนายาว ชี้รถไฟฟ้า 2 สายชมพู-ส้มเสริมศักยภาพทำเลอยู่อาศัยชานเมืองฝั่งตะวันออก

นางสาวอัญชนา วัลลิภากร ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการระบบค้นหาที่อยู่อาศัยผ่านเว็บไซต์ Baania.com และบริการข้อมูลการตลาดอสังหาริมทรัพย์ด้วย big data analytic เปิดเผยว่า ย่านมีนบุรีอยู่ในเขตกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก ซึ่งถือว่าค่อนข้างห่างจากกรุงเทพฯชั้นในอยู่พอสมควร แต่ล่าสุดรัฐบาลได้อนุมัติการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า 2 สาย ได้แก่ สายสีชมพู แคราย-มีนบุรี มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2564 และสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี กำหนดเปิดให้บริการในปี 2567 รถไฟฟ้าทั้ง 2 เส้นทางนี้จะเชื่อมโยงการเดินทางจากกรุงเทพฯฝั่งตะวันออกเข้าสู่เมืองได้สะดวกยิ่งขึ้นและเป็นปัจจัยบวกที่จะทำให้โครงการที่อยู่อาศัยในย่านมีนบุรีน่าจับตามองขึ้นอย่างมาก จึงมีความเป็นไปได้อย่างสูงที่ในอนาคตย่านมีนบุรีนี้จะกลายเป็นทางเลือกสำหรับการหาพื้นที่พักอาศัยของคนกรุงที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายจากในเมือง

สำหรับย่านมีนบุรีช่วงบางชัน-คันนายาวถือเป็นพื้นที่น่าจับตามองอีกแห่ง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อยู่ในแนวเขตรถไฟฟ้าทั้ง 2สาย และมีจุดตัดที่บริเวณสถานีมีนบุรี Baania จึงทำการกำหนดพื้นที่วิเคราะห์ย่านมีนบุรี ช่วงบางชัน-คันนายาว โดยใช้แนวเส้นถนนตั้งแต่ทางพิเศษกาญจนาภิเษกตัดกับถนนรามคำแหงและถนนหทัยราษฏร์ เพื่อศึกษาแนวโน้มราคาและการเติบโตของโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว โดยปัจจุบันที่อยู่อาศัยย่านมีนบุรีในพื้นที่บางชัน-คันนายาว ประกอบไปด้วยโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ ได้แก่ โครงการบ้านและทาวน์โฮมจำนวนทั้งสิ้น 127 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการที่ยังเปิดขายจำนวน 40 โครงการ

การวิเคราะห์ประวัติและแนวโน้มราคาย่านมีนบุรีช่วงบางชัน-คันนายาว จากอดีตจนถึงปัจจุบันเพื่อดูแนวโน้มในอนาคต Baania ได้ทำการแบ่งพื้นที่การศึกษาออกเป็น 6 แห่ง โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์พื้นที่รัศมีตามโครงข่ายคมนาคมขนส่งทางถนนจริงในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ทำให้เราสามารถวิเคราะห์รูปแบบเชิงพื้นที่และแนวโน้มของราคาที่อยู่อาศัยได้ดังนี้

พื้นที่ที่ราคาสูงสุด 3 อันดับแรกล้วนเป็นบริเวณที่ติดกับทางพิเศษกาญจนาภิเษกทั้งสิ้น สำหรับพื้นที่หมายเลข 1 ติดกับถนนรามอินทราฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯชั้นใน ทำให้มีราคากลางของโครงการที่อยู่อาศัยสูงถึง 5.84 ล้านบาท และมีราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร(ตร.ม.) อยู่ที่ 19,140 บาท สูงกว่าโครงการในพื้นที่หมายเลข 6 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนอยู่มาก โดยมีราคากลางสูงกว่าถึง 1.9 เท่า และราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรสูงกว่าถึง 2.3 เท่าเลยทีเดียว

สำหรับพื้นที่หมายเลข 2 ที่มีทั้งสถานบริการสุขภาพอย่าง โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี อีกทั้งเดินทางสะดวกด้วยถนนรามอินทรา ทำให้ราคากลางที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 4.77 ล้านบาท และราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 16,850 บาท/ตร.ม. ส่วนโครงการในพื้นที่หมายเลข 3 ราคากลางที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 4.41 ล้านบาท และราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรที่สูงกว่าพื้นที่หมายเลข 2 เล็กน้อยที่ 23,040 บาท/ตร.ม

การเติบโตของที่อยู่อาศัยและราคา

สำหรับภาพรวมการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ (บ้านและทาวน์โฮม) ในพื้นที่ย่านมีนบุรี ช่วงบางชัน-คันนายาว มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นตามแนวถนนสายหลักในพื้นที่ เนื่องจากปัจจุบันในพื้นที่ยังคงไม่มีระบบขนส่งมวลชนทางราง ทำให้คนในพื้นที่ต้องพึ่งพาการเดินทางทางถนนเป็นหลัก แต่ในอนาคตเมื่อมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าแล้วเสร็จ จะมีโครงการที่เกิดขึ้นตามแนวรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้จากข้อมูลราคาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบย่านมีนบุรีช่วงบางชัน-คันนายาวจะพบว่า ค่ากลางราคาขายของโครงการในพื้นที่นี้มีแนวโน้มการเติบโตเฉลี่ย 0.54% ต่อปี เนื่องจากมีโครงการใหม่ในพื้นที่ที่มีราคากลางต่ำกว่าราคาเฉลี่ยเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคากลางของโครงการบ้านและทาวน์โฮมจะแปรผันไปตามโครงการใหม่ที่เกิดขึ้น แต่ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 24,105 บาท/ตร.ม. และมีการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 1.48% ต่อปี

ย่านมีนบุรี ช่วงบางชัน-คันนายาว เป็นอีกทำเลที่สามารถรองรับการอยู่อาศัยของคนในกรุงเทพฯและปริมณฑล เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีถนนสายหลักเชื่อมต่อเข้าเมืองได้สะดวกอยู่แล้ว ในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าทั้งสายสีชมพูและส้มเปิดให้บริการจะยิ่งเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้นจากการเดินทางเข้าออกเมืองได้สะดวกรวดเร็ว ในขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยมีให้เลือกหลากหลายในหลายระดับราคา โดยเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ส่วนคอนโดมิเนียมจะมีจำนวนมากขึ้นตามแนวสถานีรถไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานีมีนบุรีซึ่งเป็นจุดตัดของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย พื้นที่ในบริเวณดังกล่าวถูกกำหนดให้เป็นศูนย์ชุมชนชานเมืองในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version